BIG STORY : แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด

22 มี.ค. – แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ป่วนเดือนรอมฎอน


ผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดป่วน จ.ปัตตานี รวม 20 จุด
เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 มี.ค.) ช่วงประมาณตี 1 เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของ จ.ปัตตานี 23 จุด ใน 10 อำเภอ คือ อ.เมือง 1 จุด อ.มายอ 2 จุด อ.ยะหริ่ง 1 จุด อ.ยะรัง 3 จุด อ.โคกโพธิ์ 2 จุด อ.หนองจิก 2 จุด อ.ทุ่งยางแดง 3 จุด อ.ไม้แก่น 2 จุด อ.กะพ้อ 2 จุด และ อ.สายบุรี 2 จุด มีทั้งเหตุลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ วางเพลิงเสาไฟฟ้า วางเพลิงสำนักงานการไฟฟ้า เผายางรถยนต์ และลอบวางเพลิงที่พักรีสอร์ต แต่ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินคือ เหตุเกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.เกาะจัน อ.มายอ

ระเบิดปั๊มน้ำมันระหว่างก่อสร้าง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ผู้สื่อข่าวลงที่เกิดเหตุพบว่าเป็นปั๊มที่กำลังก่อสร้าง มีกำหนดให้เปิดบริการเดือนพฤษภาคมนี้ ตรวจสอบพบว่าจุดระเบิดอยู่ที่ตู้หัวจ่ายน้ำมัน แรงระเบิดทำให้ตู้จ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน เสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในปั๊มกระจกแตกเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นแรงงานหญิงชาวเมียนมา อายุ 27 ปี โดยจุดนี้คาดมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ลักลอบเข้ามาด้านหลังปั๊มน้ำมัน โดยนำอาวุธ ระเบิด ถังแก๊สปิกนิกขนาดเล็กสีส้ม 2 ลูก มาวางไว้ที่ตู้จ่ายน้ำมัน 2 จุด และมีการเผายางรถเพื่อป้องกันการติดตาม จากนั้นประมาณ 5 นาที เกิดระเบิดที่วางไว้ 1 ลูก แรงระเบิดทำให้ตู้หัวจ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ได้รับความเสียหาย แรงระเบิดยังทำให้แรงงานหญิงชาวเมียนมาที่นอนพักภายในแคมป์คนงานและอยู่ใกล้จุดระเบิด ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต


ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ-เผาโรงงาน
ส่วน จ.ยะลา มีเหตุป่วนรวม 11 จุด กระจายใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ยะหา และ อ.ธารโต นอกจากมีการลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อแล้ว ยังมีการลอบวางเพลิงโรงงานแก๊สหุงต้มขนาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้มีรายงานว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 7 คน ถืออาวุธครบมือ บุกเข้าไปจับตัวคนงานและมัดมือเอาไว้ จากนั้นงัดประตูเหล็กด้านหลังและเข้าไปก่อเหตุวางเพลิงเผาในโรงงาน เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังเร่งดับไฟ และสามารถช่วยคนงานได้ปลอดภัยทุกคน นอกจากนี้ยังวางเพลิงเผาร้านเฟอร์นิเจอร์ เสาไฟฟ้า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ โรยตะปูเรือใบ เผายางรถยนต์ถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งว่ามีเสียงระเบิด 3-4 ครั้ง ที่โรงโม่หิน ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านลิดล อ.เมืองยะลา

ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงรถก่อสร้างถนน-กล้องซีซีทีวี
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เกิดเหตุใน 6 อำเภอ 7 จุด เช่น อ.แว้ง คนร้ายลอบวางเพลิง บ.ซาเล่ต์ ฟอร์เรส นรา จำกัด ซึ่งรับซื้อไม้มาทำการแปรรูป และวางเพลิงรถโฟล์คลิฟต์ ซึ่งจอดอยู่ในโรงเรือน เสียหาย ส่วนจุดอื่น เช่น อ.สุไหงปาดี ลอบวางเพลิงรถปูยางมะตอย 1 คัน รถยนต์บดถนนแบบล้อยาง 2 คัน รถบดถนนแบบล้อเหล็ก 2 คัน ที่จอดไว้ริมถนนบ้านบาโงฮูมอ ม.5 ต.ริโก๋ เพื่อรอก่อสร้างถนนสายสุไหงปาดี สุไหงโก-ลก เสียหาย 4 คัน อ.เจาะไอร้อง

ลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 2 คัน รถโกยตัก 2 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ 2 คัน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง ที่จอดและติดตั้งไว้ในโรงงานอุตสาหกรรมนราดินเสียหาย อ.จะแนะ คนร้าย 20 คน แต่งกายชุดดำสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า มีอาวุธปืนครบมือ ได้บุกเข้าไปใน บ.เอเซียเหมืองแร่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านไอร์บาลอ ม.6 ต.ช้างเผือก จับกุมคนงานที่ทำหน้าที่เฝ้าเวรยามมัดไว้ ก่อนคนร้ายจะแยกย้ายกันลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และบ้านพักคนงาน 1 หลัง ส่วนที่ อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร ลอบวางเพลิงกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้บริเวณเสาไฟฟ้า เสียหายรวม 3 ตัว


นายกฯ กำชับทหาร-ตร.ดูแลเหตุป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ ซึ่งนายกฯ แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ลงพื้นที่ไปดูแลและควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมทั้ง สั่งการผ่านผู้บัญชาการทหารบกให้แม่ทัพภาคที่ 4 ไปดูแลเหตุดังกล่าวแล้ว ส่วนมีความเกี่ยวเนื่องกับวันครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ตากใบด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบต้องการแสดงกำลังช่วงเดือนรอมฎอน เป็นการแสดงกำลัง

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เผยเหตุป่วนใต้คืนเดียวรวม 44 จุด
พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปภาพรวมเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 มีนาคม กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ก่อกวนหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

ภาพรวมพบกลุ่มผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่รวม 44 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 13.30 น.) เกิดขึ้นพื้นที่ จ.ยะลา 12 จุด ปัตตานี 23 จุด นราธิวาส 7 จุด สงขลา 2 จุด

แบ่งเป็นเหตุลอบวางระเบิด 1 เหตุ ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.มายอ จ.ปัตตานี มีแรงงานหญิงเมียนมาเสียชีวิต 1 ราย และเหตุการณ์ลอบวางเพลิง 43 เหตุ มีทั้งร้านสะดวกซื้อ เสาส่งสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ เผารถยนต์-ยางรถยนต์ กล้องวงจรปิด CCTV เสาไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี รีสอร์ต โรงไม้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ โรงโม่หิน เหมืองแร่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงงานผลิตเมทัลชีท โรงบรรจุก๊าซ

ทัพภาคที่ 4 สั่งการเร่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร็ว
ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กำชับหน่วยในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการอย่างเข้มงวด โดยมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามขยายผล ตรวจสอบวัตถุพยาน รวบรวมหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ผู้ก่อเหตุหวังทำลายความสงบช่วงเดือนรอมฎอน
ส่วนสาเหตุเชื่อผู้ก่อเหตุมุ่งหวังทำลายระบบสาธารณูปโภค ระบบเศรษฐกิจ สร้างสถานการณ์ทำลายบรรยากาศเดือนรอมฎอนสันติสุข ก่อกวนในการประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยไม่คำนึงถึงหลักการอันดีงามของศาสนา

ทั้งนี้ หากประชาชนพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่แจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร.06 1173 2999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิด เช่น นำพาซ่อนเร้น สนับสนุนที่พักพิง เสบียงอาหาร มีความผิดตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ป่วนพื้นที่จังหวัดภาคใต้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้เดินทางตรวจจุดเกิดเหตุจากเหตุการณ์คนร้ายก่อกวน ป่วนในพื้นที่ จ.ยะลา บริเวณยะลาสหพัฒน์แก๊ส อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อรับทราบสถานการณ์ พร้อมพบปะกับผู้ประกอบการ นำข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก่อนเดินทางไปที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่กับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม warroom ศปก.ตร.สน. โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ช่วงนี้อยู่ในเทศกาลถือศีลอด ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ต้องเพิ่มความเข้มในมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องของประชาชนมากยิ่งขึ้น ฝ่ายความมั่นคงจะได้ประชุมกันและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายและวางมาตรการเพิ่มขึ้นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะเป็นช่วงที่มีการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพื่อผลบุญอันสูงสุด คนร้ายมักใช้ช่วงเวลานี้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-11 มิ.ย. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูง […]

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย