ยะลา 30 ต.ค. – ยิงรถกู้ภัยกลางดึก ขณะไปรับผู้ป่วยที่ยะลา ประธานมูลนิธิวอนคนร้าย ถ้าเห็นรถมีไฟสีแดง-น้ำเงิน ให้เว้นบ้าง เพราะวิ่งไปช่วยเหลือคน
ภาพจากกล้องในรถยนต์ บันทึกที่มาของเสียงดังคล้ายอาวุธปืน เข้ามากระทบกับรถยนต์ ในระหว่างรถกำลังวิ่ง เแต่วิถีกระสุนมากระทบกับเหล็กภายในรถ ทำให้คนในรถบาดเจ็บไม่มาก
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่ จ.ยะลา เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 22.26 น. มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ลอบยิงรถพยาบาลของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเจ้าแม่ทับทิมยะลา ขณะไปรับผู้ป่วยที่บ้าน ในพื้นที่บ้านทุ่งยามู บนถนนสาย 418 (ยะลา – ปัตตานี) ขาออกตัวเมืองยะลา ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ตรวจสอบพบกระจกฝั่งซ้ายของตู้พยาบาล แตก ทั้งบาน และมีรอยรูกระสุนที่ขอบกระจก นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ที่นั่งหลังรถได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
คนขับรถพยาบาล เล่าให้ฟังว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ รับแจ้งเหตุจากศูนย์หน่วยกู้ภัยเจ้าแม่ทับทิมยะลา ให้ไปรับผู้ป่วย ในพื้นที่บ้านทุ่งยามู ทางศูนย์ได้สั่งการให้เอารถตู้กู้ชีพ-กู้ภัย ออกไปรับผู้ป่วยและระหว่างทางที่นำรถออกไป เลยปั๊ม ปตท. ถนนสาย 418 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้ยินเสียงแปลกปลอมมากระแทกรถ ตนเองพยายามขับไปให้ถึงบ้านผู้ป่วย แล้วค่อยไปตรวจสอบดูว่าที่ข้างตัวรถจะโดนอะไร เมื่อถึงจึงได้รู้ว่ากระจกแตกร้าว แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าโดนอะไร ก็เลยรอคุยกับผู้ป่วยก่อน รับผู้ป่วยอะไรก่อน พอรับผู้ป่วยแล้ว ผู้ป่วยขึ้นรถ เราก็นำรถออกมาพร้อมกับผู้ป่วย เพื่อมารอที่จุดตรวจท่าสาป (ก่อนเข้าตัวเมืองยะลา) และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบว่าเป็นรอยอะไร ส่วนผู้ป่วยก็ได้เปลี่ยนถ่าย นำตัวไปอีกคันหนึ่ง เพื่อไปที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ด้าน นายวัฒธน อายุ 59 ปี ประธานมูลนิธิกู้ภัยเจ้าแม่ทับทิมยะลา เปิดเผยว่า หลังทราบเหตุ ทางศูนย์ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปที่เกิดเหตุเพื่อให้พารถออกมาจากพื้นที่ ซึ่งผู้ป่วยก็ถึงโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นที่เรียบร้อย ในส่วนหลาย ๆ อย่างที่ตนเองจะพูดคือว่า จิตอาสาของเราหน่วยกู้ชีพกู้ภัยของเรานี้ที่ทำขึ้นมา บางคนอาจจะถามว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้กลัวอะไรบ้างไหม มันก็ต้องมีบ้าง เป็นบางครั้ง แต่ด้วยจิตอาสาจริง ๆ เราไม่ได้กลัวอะไรมาก เพราะเราวิ่งทำงาน 24 ชั่วโมง แล้วพื้นที่ห่างไกลกว่านี้เราก็ยังไปเหมือนกัน เช่น ต.ลำพะยา และ ต.ไม้แก่น ก่อนถึงพื้นที่ อ.รามัน เราก็ยังไปอยู่ เพราะกลางคืนเข้าใจว่าไม่มีใครอยากออกจากบ้าน แต่เราจะมีรถสแตนด์บาย อยู่ 2-3 คัน ทุก ๆ คืนตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องเข้าไปรับ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น
อยากจะวอนคนร้าย ถ้าเห็นไฟสีแดง-น้ำเงิน ให้พึงระลึกได้เลยว่าเป็นรถฉุกเฉิน รถพยาบาล คอยช่วยเหลือประชาชน ช่วยคน อย่าไปทำเลย อยากให้เหมือนกับที่กรุงเทพฯ พอรถฉุกเฉินมาเขาก็หลบให้หมด อยากให้เป็นเหตุการณ์นั้นมากกว่า .-สำนักข่าวไทย