เชียงใหม่ 2 เม.ย. – ชาวบ้านยังลักลอบเผาป่าต่อเนื่อง วันนี้ (2 เม.ย.) จ.เชียงใหม่ พบจุดความร้อนมากถึง 308 จุด สภาพท้องฟ้าขมุกขมัวทั่วเมือง คุณภาพอากาศแย่ติดอันดับ 1 ของโลก ด้าน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งล่ามือเผามาดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
สภาพท้องฟ้าในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังเต็มไปด้วยหมอกควันไฟป่าปกคลุม ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน มองด้วยสายตาเห็นฝุ่นควันลอยในอากาศจนขมุกขมัว ช่วงเช้าวันนี้รถยนต์ยังต้องเปิดไฟ ทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเปิดม่านน้ำที่ติดตั้งไว้ทั่วเมือง 6 จุด ช่วยบรรเทาเรื่องของการหายใจ
ประชาชนส่วนใหญ่ต้องปิดประตู หน้าต่าง ป้องกันฝุ่นละออง และอยู่ในบ้านยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย แม้แต่ในบ้านฝุ่น PM 2.5 สูงเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สาเหตุยังคงมีการลักลอบจุดไฟป่า
จ.เชียงใหม่ พบจุดความร้อนมากถึง 308 จุด
รอบเช้าวันนี้ เชียงใหม่ยังพบจุดความร้อนมากถึง 308 จุด กระจายใน 21 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ พื้นที่ป่าสงวนฯ และป่าอนุรักษ์ อ.เชียงดาว มากที่สุด 52 จุด อ.ฝาง 46 จุด อ.แม่แตง 43 จุด อ.พร้าว 38 จุด อ.หางดง ลดลงหลือ 12 จุด และ อ.เมืองเชียงใหม่ ยังเหลืออีก 1 จุด ส่งผลให้ตัวเมืองเชียงใหม่ ฝุ่นขนาดเล็กต่ำกว่า 2.5 ไมครอน ยังลอยฟุ้งกระจายเต็มเมือง โดยพื้นที่ ต.ช้างเผือก ต.ศรีภูมิ และ ต.สุเทพ อยู่ระหว่าง 207-216 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดในรอบปี และค่า PM 2.5 สูงสุดเช้าวันนี้อยู่ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว สูงถึง 328 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง
ส่วน PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ของศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ที่บ้านปางเฟือง ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว สูงถึง 714 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงถึง 14 เท่า
ขณะที่วันนี้เว็บไซต์ไอคิวแอร์ ยังจัดอันดับให้เชียงใหม่มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 1 ของโลกต่อไปอีก
ตร.เร่งจับกุมดำเนินคดีกับคนเผาป่า
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมเร่งด่วน และสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรว สภ.หางดง ที่พบว่ามีไฟป่ามากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เป็นการเจตนาเผา จนผู้ว่าราชการจังหวัดต้องประกาศให้พื้นที่บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง และยังมีพื้นที่บ้านป่าจี้ หมู่ 3 ต.แม่เหียะ และพื้นที่บ้านภูพิงค์หมู่ 12 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ให้เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินจากไฟป่า โดยให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีและลงโทษเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย