ปิดล้อมระทึก! ชายคลั่งยิงปืนสนั่นหมู่บ้าน ชาวบ้านผวาลูกหลง

ตรัง 17 ก.พ. – ชายคลุ้มคลั่ง ถือปืนสั้น-ปืนยาว 3 กระบอก เดินอยู่ในบ้านตัวเอง ก่อนจะยิงปืนออกมาจากสวนปาล์ม ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงผวา ร้องขอให้ชุดหนุมานเข้าจับกุม


เหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเย็นต่อเนื่องถึงกลางคืนของวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งชื่อ นายอุกฤษ หรือ ติ๊ก อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ที่บ้าน 2 ชั้น ภายในสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และมีบริเวณเล้าหมูอยู่หลังบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จู่ๆ เกิดคลุ้มคลั่งเดินถืออาวุธปืน 3 กระบอก คือ อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนพกสั้น 2 กระบอก ขนาด .38 และ ขนาด 9 มม. อยู่ในบริเวณที่พัก

ญาติพี่น้องพยายามเกลี้ยกล่อม พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ในชุมชนเข้ามาช่วยเจรจาแต่นานหลายชั่วโมง นายติ๊ก ไม่ยอมออกมาจากบ้าน แล้วยังได้ยิงปืนออกมาจากบริเวณสวนปาล์ม ใกล้เล้าหมู หลังบ้านนายติ๊ก 1 นัด เวลาต่อมาได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากญาติ บอกว่า นายติ๊ก น่าจะเครียดและมีอาการคลุ้มคลั่ง เพราะระยะหลังเริ่มยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ผ่านมาขยันทำงานมีกิจการเลี้ยงหมู สวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน และกำลังจะแต่งงาน


จากนั้นช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ.66 ชุดหนุมานตรัง ได้เข้าปิดล้อมบ้าน เพื่อจะควบคุมตัวนายติ๊กให้เร็วที่สุด โดยสามารถเข้าเคลียร์ พื้นที่บริเวณเล้าหมูและภายในบ้านพักสำเร็จ แต่สุดท้ายคว้าน้ำเหลว นายติ๊กฉวยจังหวะหลบหนีออกไป เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อม จนกระทั่ง เวลา 13.30 น. ก็ตัดสินใจถอนกำลังออกมา โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้วยยอด เข้าไปดูแลจัดวางกำลังเฝ้าระวังพื้นที่ พร้อมทั้งแนะนำให้ชาวบ้านอยู่แต่ในบ้านพัก

นอกจาก บ้านของนายติ๊กจะอยู่ใช้ใกล้กับบ้านเรือนประชาชนแล้ว ยังอยู่ใกล้กับ โรงเรียนบ้านซา ซึ่งมีเด็กอยู่ในระดับชั้นอนุบาลถึง ป.6 รวมจำนวน 150 คน ครู 10 คน ด้วย รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตำบลบางดี ทางคณะครูต้องรีบแจ้งผู้ปกครองให้มารับบุตรหลานกลับเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ทางโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ อาจจะไม่เปิดเรียนอีก 1 วัน

วันที่ 16 ก.พ. เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปตรวจค้นบ้านของนายติ๊กครั้งหนึ่ง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ยึดจดหมายสั่งเสียของนายติ๊กไว้ได้ 1 ฉบับ ข้อความลักษณะสั่งเสีย ใจความว่า “ถ้าชาติหน้ามีจริงโบ้เราอย่าได้พบเจอกันอีกเลย พอแค่ชาตินี้ กูมันเลว..กันอยากให้ผมตายบอกมาตรงๆ นิ ผมพร้อมที่จะตาย เติ้นให้ชีวิตผม ผมเอาชีวิตหลบให้โบ้เติ้ลแล้วนะ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ธุรกิจรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอโทษกับเรื่องราวทุก ๆ สิ่ง ผมไม่มีอะไรให้โบ้เติน มีแต่ชีวิตผมนี่แหละ… รักทุกคนเหมือนเดิมตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง….. คำขอสุดท้าย…. (ไม่ต้องสวดให้เผาเลย เพราะชีวิตผมไม่ได้สำคัญไหร่) จาก…ลูกเลวระยำ… ติ๊ก ”


กระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 16 ก.พ. เจ้าหน้าที่ได้ส่งเพื่อนของนายติ๊ก 2 คน มาช่วยเจรจาต่อรอง ขณะนายติ๊กยังกบดานอยู่ภายในบ้านอย่างเงียบเชียบ ไม่ยอมเปิดไฟ เพื่อนตะโกนเรียกนานประมาณ 20 นาที แต่ไม่มีเสียงตอบ

เจ้าหน้าที่ชุดหนุมาน วางแผนจู่โจมเข้าไปภายในบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามจะพังประตูหลังบ้านเพื่อเข้าไป นายติ๊ก รีบหนีออกจากบ้านทางประตูด้านข้าง พร้อมยิงปืนอีก 1 นัด เพื่อเปิดทางหนีเข้าไปในสวนปาล์มข้างบ้าน หลบหนีไปท่ามกลางความมืด

เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ซึ่งเป็นของพ่อนายติ๊กได้ 1 กระบอก ส่วนปืนพกสั้นอีก 2 กระบอก ทั้งขนาด 9 มม. และ 38 มม. นายติ๊กยังพกติดตัวไปด้วย จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังมาวางแผนใหม่ โดยให้ชุดสายตรวจ สภ.ห้วยยอด ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอห้วยยอดและท้องถิ่น ร่วมกันเฝ้าระวัง ระหว่างรอกลับมาวางแผนติดตามตัวอีกครั้ง ในเช้านี้ (17 ก.พ.)

นายติ๊กได้ยิงปืนขึ้นอีก 1 นัด รวมเป็น 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (ชุดหนุมาน) ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้วยยอด จึงร่วมปิดล้อมบ้าน และจู่โจมจะบุกเข้าจับกุม ทั้งบริเวณเล้าหมู และที่บ้านพัก 2 ชั้น แต่เจ้าตัวหลบหนีไปได้

ด้าน พ.ต.อ.อิสราพงษ์ จินา ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด บอกว่า ที่ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกก่อน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนมืดมากไม่สามารถปฏิบัติงานได้ จะวางแผนใหม่ในเช้าวันนี้ ขณะนี้คาดสาเหตุว่า นายติ๊กน่าจะเครียด และมีปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ส่วนเรื่องยาเสพติดยังไม่ทราบ ประวัติไม่เคยต้องคดีอาชญากรรม และล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) สั่งการให้เร่งจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย