ฝากขังแล้ว พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ

กำแพงเพชร 5 ต.ค. – พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ ถูกฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว ขณะที่ตำรวจเผยต้นตอเรื่องแดง และพบเคยสอบผ่านภาคทฤษฎี ก่อนฝึกปฏิบัติทนาย 6 เดือน


หลังมีกระแสข่าวการจับกุม พ่อค้าไก่หมุน ที่ปลอมเป็นทนายความสวมรอยเลขใบอนุญาตของคนอื่นรับว่าความหลายคดี โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.กำแพงเพชรนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่าเรื่องราวเกิดจากผู้ต้องหารับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จากนั้นแจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดี โดยให้ดูคำพิพากษาของศาล พร้อมเรียกรับเงินค่าดำเนินการ

ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าวปรากฏว่าไม่มี และไม่มีคดีในสารบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ทางพนักงานสอบสวนฯ จึงประสาน สภ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อทราบเรื่องทางศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงตรวจสอบเลขที่คดี พบว่าไม่มีคดีอยู่ในสารบบของศาล และตรวจสอบรายชื่อทนายความ ก็ไม่พบว่าผู้ต้องหามีอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความ จึงทราบว่าผู้ต้องหาได้ปลอมแปลงตั๋วทนาย เพื่อใช้ในการว่าความ สร้างความเสียหายให้กับศาลอย่างยิ่ง จึงแจ้งความดำเนินคดีกับทาง สภ.เมืองกำแพงเพชร และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ดังกล่าว โดยขณะนี้ผู้ต้องหาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว


ขณะที่บ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ประตูกระจกติดข้อความรับว่าความทั่วราชอาณาจักรคดีแพ่ง/อาญา พร้อมเบอร์ติดต่อ ภายในบ้านพบแม่และลูกสาวของผู้ต้องหาอีก 2 คน ผู้เป็นแม่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ให้ข้อมูลว่าลูกชายเลิกอาชีพไก่หมุนแล้วมาทำอาชีพรับว่าความ หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว เรื่องความผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ในหัวอกแม่ ลูกชายเป็นที่รักเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด หลังลูกชายถูกควบคุมตัวไป ไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่รู้จะไปติดต่อทางไหน ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกอยากไปประกันตัวออกมา ชีวิตตอนนี้ลำบากมากเพราะตนพิการเดินไม่ได้และมีหลานสาวอีก 2 คน การดำรงชีพได้เพื่อนบ้านนำอาหารและของจำเป็นมาจุนเจือให้พอมีกินอิ่มไปเป็นมื้อ

ขณะเดียวกัน ทางตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ให้ข้อมูลว่าเคยพบเห็นทนายไก่หมุนคนนี้เคยมาแสดงตัวว่าเป็นทนายความพาลูกความมาแจ้งความในคดีต่างๆ และมาขอคำแนะนำเรื่องคดีของลูกความบ้าง ครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ พาลูกความมาแจ้งความ เพิ่งมาทราบจากข่าวว่าเป็นทนายปลอม

ด้านครอบครัวของผู้ต้องหาซึ่งมีแม่ที่พิการและลูกสาวอีก 2 คน อายุ 7 ขวบ และ 8 ขวบ ต้องขาดเสาหลักในการดูแล เบื้องต้นทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคณฑี ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยม พร้อมให้การช่วยเหลือให้เข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐ และแนวทางช่วยเหลือด้านงบช่วยเหลือ และอื่นๆ ที่จะได้รับตามระเบียบ ส่วนเด็กทั้ง 2 คน ตอนนี้เรียนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผู้นำชุมชนช่วยกันดูแล และจะเรี่ยไรเงินทำบุญในชุมชนและผู้นำมาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน พร้อมกับจะประสานแม่ของเด็กให้เข้ามาช่วยดูแลร่วมกัน โดยนางกิมไล้ผู้เป็นแม่ยังอยู่ในความเสียใจ พูดทั้งน้ำตาอยากบอกลูกมีอะไรทำไมไม่บอกกัน คิดถึงลูกเหลือเกินหัวอกความเป็นแม่ หากเป็นไปได้เอาแม่ไปติดคุกแทนแม่ก็ยอม ด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เผยผู้ต้องหาเป็นคนเก็บตัว เปิดสำนักงานมาประมาณปีกว่าๆ มีคนในหมู่บ้านเคยมาติดต่อขอคำปรึกษาทางด้านกฎหมายประมาณ 2-3 เคส เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น


จากการสอบสวนขยายผล จนมีการพาดพิงไปถึงทนายความคนหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ว่าสนิทสนมกับพ่อค้าไก่หมุน และเคยร่วมงานในการช่วยว่าความด้วยหลายคดี อีกทั้ง ยังมีหลักฐานปรากฏบนโลกโซเชียล เป็นรูปถ่ายคู่กัน ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบทนายความผู้ที่ถูกพาดพิงถึง พบเฟซบุ๊กของทนายความรายนี้ ได้โพสต์ภาพ และข้อความชี้แจง ระบุว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับ “รวบพ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายขึ้นศาล แล้วปรากฏภาพถ่ายและชื่อของผมในข่าวนั้นด้วย ผมขอชี้แจงว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่มีส่วนได้เสีย กับการการะทำของทนายปลอมคนดังกล่าว ซึ่งได้พูดคุยกับแอดมินเพจ และผู้เสียหายในเรื่องดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าเป็นการนำชื่อ นามสกุล และภาพถ่ายของผมไปใช้อ้างอิงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม ดังนั้น ผมจึงขอชี้แจงว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผมก็ตกอยู่ในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่งเช่นกัน”

เพื่อให้กระจ่างกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่สำนักงานทนายความของนายวัชรพล ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เจ้าตัว ยอมรับว่าตนกับพ่อค้าไก่หมุนรู้จักกันจริง แต่ไม่สนิทสนม รู้จักกันตั้งแต่ปี 53 ซึ่งตอนนั้น พ่อค้าไก่หมุนได้ไปฝึกงานในภาคปฏิบัติงานตั๋วทนายอยู่ที่สำนักทนายความของอาจารย์ตน และพอฝึกจบ ก็แยกย้ายกันไป จนกระทั่ง เมื่อกลางปี 64 พ่อค้าไก่หมุนติดต่อกลับมา และขอให้ตนช่วยทำคดีว่าความให้ในเรื่องของอาญา หมิ่นประมาทของศาล จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้น จึงรู้จักกันเรื่อยมา แต่ในส่วนของตนที่รับงานทำคดีให้เขา รับทำมาแค่ 3 คดี ชนะ 1 คดีที่นครสวรรค์ ได้ทำจบไปแล้ว และเหลืออีก 2 คดีที่ จ.พิษณุโลก และที่ จ.กำแพงเพชร กำลังอยู่ในชั้นอุทธรณ์

“ตอนที่เขามาฝึกงานที่สำนักงานทนายความของอาจารย์ผม ผมรู้ว่าเขาเพิ่งสอบทนายในภาคทฤษฎีผ่าน จากนั้น ก็มาฝึกงานอยู่ในภาคปฏิบัติประมาณ 6 เดือน ก็แยกย้ายกันไปนานหลายปีไม่เคยติดต่อกัน แต่จู่ๆ เขาก็ติดต่อกลับมาขอให้ช่วยว่าความให้ ซึ่งก่อนจะรับงาน ตนก็เคยขอดูใบอนุญาตทนายความของเขาด้วยนะ เขาก็เอามาโชว์ให้ดู ผมก็เลยให้เกียรติเขา จึงไม่ขอตรวจสอบต่อ และที่ผ่านมา เท่าที่ผมรู้จักกับเขา เขาก็ดูคล่องแคล่ว เหมือนกับทนายความทุกอย่าง จึงทำให้ผมไม่สงสัยในตัวเขาต่อ

เมื่อถามถึงรูปถ่ายคู่กัน นายวัชรพล กล่าวว่า รูปนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดช่วงปีไหน แต่วันนั้น เป็นวันที่จะเดินทางไปว่าความที่ จ.พิษณุโลกพอดี ส่วนพ่อค้าไก่หมุนก็โทรศัพท์ติดต่อมา บอกว่าจะเดินทางไปพิษณุโลกเช่นกัน และด้วยความหวังดี นึกสงสารเขาที่มีแต่รถจักรยานยนต์ขับขี่ จึงอาสาขับรถไปรับที่ จ.กำแพงเพชรโดยให้เขาขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะเดินทางไปพิษณุโลกด้วยกัน และในระหว่างทางเขาได้ขอถ่ายรูปคู่ด้วย ก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วสักพักเขาก็เอาไปโพสต์เฟซบุ๊ก และก็แท็กมาที่เฟซบุ๊กตน ซึ่งก็ไม่คาดคิดเลยว่า รูปภาพดังกล่าว เขาจะเอาไปแอบอ้าง โดยใช้รูปภาพนั้น รวมถึงชื่อ และนามสกุลของตน ไปหลอกรับงานว่าความ จนทำให้เกิดความเสียหาย

ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายในพื้นที่ จ.ชลบุรี 1 ราย ถูกพ่อค้าไก่หมุนหลอกลวง และพาดพิงมาถึงตนว่ารับงานแล้วก็ทิ้งงานไปเลยนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเรื่องนี้ได้ไปพูดคุยชี้แจงกับกลุ่มทนายความ และผู้เสียหายรายนี้แล้วว่า ตนโดนแอบเอาชื่อสกุล และรูปภาพ ไปแอบอ้าง โดยที่ไม่เคยรู้เรื่องใดๆ เลย ซึ่งเรื่องนี้ ตนมีหลักฐานคลิปที่บันทึกไว้ระหว่างโทรศัพท์ไปพูดคุยกับพ่อค้าไก่หมุน และเจ้าตัวก็ยอมรับสารภาพว่าเอาตนไปแอบอ้างจริงๆ จนทางผู้เสียหายเข้าใจแล้ว และตนก็ได้ไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานไว้แล้วด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย