ชัยภูมิ 30 ก.ย. – ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิได้รับผลกระทบทั้งหมด 25 ชุมชน ขณะที่ชุมชนกุดแคน-หัวถนน ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุด แต่ล่าสุดน้ำได้เริ่มลดลงแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ชุมชนกุดแคน-หัวถนน เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิแห่งนี้ มีคนอยู่อาศัยเกือบ 200 หลังคาเรือน ประชากรเกือบ 700 คน เป็นจุดลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบทั้งจากลำห้วยเสียว และห้วยยางบ่า โดยชุมชนแห่งนี้เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปี มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่สถานการณ์น้ำ ระดับน้ำโดยเฉลี่ยขณะนี้สูงเกินกว่า 1 เมตร แต่ชาวบ้านตื่นเช้าขึ้นมา ก็สบายใจขึ้นบ้าง เมื่อระดับน้ำเริ่มลดลง
ขณะหญิงวัย 50 ปี อยู่กับสามี 2 คน ตั้งแต่น้ำท่วมเข้าสู่วันที่ 4 ก็ขาดรายได้ เพราะสามีไม่สามารถออกไปขับรถสามล้อเครื่องรับจ้างได้ อยากให้ภาครัฐช่วยเรื่องอาหารการกินมากขึ้นตลอดช่วงเผชิญน้ำท่วม
เช่นเดียวกับ สถานการณ์ภาพรวมเขตเศรษฐกิจในตัวเมืองชัยภูมิ ก็เริ่มลดลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ถนนหฤทัยตัดถนนบรรณาการ ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล ตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานที่ดิน สำนักงานป่าไม้จังหวัด เป็นต้น แต่ระดับน้ำยังสูงในหลายจุด ร้านรวงต่าง ๆ ยังไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติ ขณะนี้เครื่องสูบน้ำกว่า 20 เครื่อง กำลังเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ โดยส่วนใหญ่กระจายตามลำห้วยเสียว
ขณะที่ผู้ประกอบการด้านถนนโนนม่วง บอกว่าเผชิญน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 3 ในรอบครึ่งเดือน 2 ครั้งแรก น้ำท่วมขังเพียงวันเดียว รอบนี้ท่วมขังเข้าวันที่ 4 แล้ว ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก สอดคล้องกับนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ที่ระบุว่าอยู่ในภาวะน้ำอิ่มตัวหลายจังหวัด เช่นขอนแก่นจุดที่จะรับน้ำต่อ ทำให้เกิดภาวะน้ำหนุน จึงเกิดการท่วมขังเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังไว้วางใจไม่ได้เนื่องจากคืนที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างหนักหลายจุด จากอิทธิพลของพายุโนรูที่มีจุดศูนย์กลางอำเภอเมืองชัยภูมิ ช่วงค่ำวานนี้ ส่วนชุมชนรอบนอกที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป เพราะระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เช่น ชุมชนขี้เหล็กใหญ่ และหนองหลอด. -สำนักข่าวไทย