วิชา เตรียมเรียก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ และตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีบอส อยู่วิทยา

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 14 ส.ค.- วิชา เตรียมเรียก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ และตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีบอส อยู่วิทยา ย้ำต้องคุ้มครองดูแลความปลอดภัยพยาน เนตร ยันสั่งไม่ฟ้องเป็นอำนาจ ใช้ดุลยพินิจส่วนตัวโดยถูกต้อง ไม่ต้องรายงานอัยการสูงสุด อรรถพล เห็นช่องโหว่กฎหมาย เตรียมประชุมคณะกรรมการอัยการ 18 ส.ค.นี้ สอบคดีบอส


นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส แถลงหลังรับฟังการชี้แจงจากนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธว่า นายอรรถพล ยืนยันความคิดเห็นและข้อสังเกตที่ให้กับทางอัยการสูงสุดไปแล้ว ว่าในขณะที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร เป็นอัยการสูงสุด เคยสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมไปแล้ว และให้ดำเนินการฟ้องคดีไปตามคำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ แต่การที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด หยิบยกเรื่องร้องขอความเป็นธรรมขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่หยิบยกมาอีกไม่ได้ เว้นแต่ต้องรายงานให้อัยการสูงสุดคนปัจจุบันรับทราบด้วย ว่าได้สั่งการหรือดำเนินการไปประการใดประการหนึ่ง แต่ถ้าสั่งไปแล้วโดยไม่พิจารณารอบคอบ ถือว่าเป็นการสั่งฟ้องคดีโดยไม่ชอบ ซึ่งนายอรรถพลได้บอกว่านำประเด็นนี้หารือกับอัยการสูงสุดแล้ว แต่อัยการสูงสุดนิ่งเฉยไม่ตอบอะไร และอยากให้ตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบโดย ก.อ แต่อัยการสูงสุดได้สั่งตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบเองในฐานะผู้นำองค์กร แต่หาก ก.อ.มีคำสั่งประการใดที่เกี่ยวข้อง ก็อาจเกิดความขัดแย้งยุ่งยาก ซึ่งจะต้องรอฟังผลที่ประชุม ก.อ. จะพิจารณาซักถามกรณีนี้ในวันที่ 18 สิงหาคม

นายวิชา กล่าวว่า ความเห็นของนายอรรถพล ตรงกับความเห็นของศาสตราจารย์พิเศษ คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ว่า ไม่มีกฎหมายระบุไว้โดยตรงเกี่ยวกับร้องขอความเป็นธรรม ว่าผู้ที่ได้รับมอบอำนาจระดับรองอัยการสูงสุด สามารถดำเนินการได้หรือไม่ และสิ่งที่น่าสนใจคือนายเนตร นาคสุข ขณะปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ได้เป็นรองอัยการสูงสุดโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม โดยได้สั่งการไปในฐานะของอธิบดีอัยการศาลสูง รักษาราชการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด และปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นตำแหน่ง 3 ต่อกัน จึงเกิดประเด็นปัญหาที่น่าคิด ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานชุดนี้ด้วย โดยจะเชิญนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด มาชี้แจงกับคณะกรรมการภายในสัปดาห์หน้า


ส่วนการชี้แจงของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้องคดี นายวิชา กล่าวว่า นายเนตร ยืนยันว่าการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรม เป็นไปตามที่ทนายความร้องขอมา และทางสำนักคดีกิจการอัยการ เป็นฝ่ายที่ตั้งเรื่องมาว่า เห็นสมควรสั่งสอบเพิ่มเติม แล้วจึงได้ดูสำนวนจริงๆ ก็ตอนที่ตำรวจดำเนินการสอบเพิ่มเติมแล้ว โดยนายเนตรยืนยันว่าการสั่งไม่ฟ้องเป็นไปโดยถูกต้อง และไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของนายอรรถพล เพราะมั่นใจว่าสั่งโดยมีอำนาจ และสั่งเช่นนี้ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ ส่วนกรณีหยิบยกเรื่องขอความเป็นธรรมมา ก็เห็นว่าทำได้ตลอด ไม่ถือว่าคำสั่งนี้เป็นการลบล้างคำสั่งของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ เพราะเป็นการสั่งเฉพาะเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นการสั่งในสำนวน เพราะฉะนั้นจึงมีอำนาจเต็มบริบูรณ์ และยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องรายงานต่ออัยการสูงสุดเพราะถือว่ามีอำนาจโดยสูงสุดอยู่แล้ว ซึ่งทาง ก.อ. จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนที่นายเนตรตัดสินใจลาออก นายวิชากล่าวว่า นายเนตร ชี้แจงว่า ตัดสินใจด้วยตัวเองเพื่อเป็นผลดีต่อองค์กรให้หมดความยุ่งยากไป ให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นตัวถ่วงและอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่การลาออกมีผลต่อเมื่ออัยการสูงสุดสั่งอนุมัติการลาออก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งอนุมัติ จึงยังคงเป็นอัยการสูงสุดอยู่

ส่วนที่เคยมีรองอัยการสูงสุดดำเนินการใช่อำนาจเช่นเดียวกับนายเนตรหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า นายเนตรไม่ได้พูดถึง พูดแต่ในส่วนที่นายเนตรระบุเพียงว่าใช้อำนาจโดยไม่เคยรายงานต่ออัยการสูงสุด ขณะที่นายอรรพล ย้ำว่าการทำงานของอัยการมีช่องโหว่เยอะ จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะอยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อกฎหมาย และต้องนำเสนอด้วยว่า จะต้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะเข้าไปอยู่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ หรือจะออกเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่าระเบียบ จะใช้บังคับอย่างไร ระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเดิมไม่มีกำหนดไว้โดยสามารถขอความเป็นธรรมเป็นร้อยครั้งก็ได้ เมื่อขึ้นไปถึงศาลจะขอให้อัยการถอนฟ้องก็ยังได้


ส่วนความคืบหน้าของคณะทำงานตรวจสอบบุคคลทั่วไป ที่มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน นายวิชากล่าวว่า ได้ความคืบหน้านี้เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องความเร็วของรถ เรื่องโคเคน โดยได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย และจะนำมาประกอบการพิจารณาว่าการทำสำนวนบกพร่องจริงหรือไม่ โดยได้รับสำนวนของทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทางตำรวจก็มีความคืบหน้าตลอดเวลา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการ เกี่ยวกับการใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 หรือไม่ อย่างไร หรือจะถือว่ากระบวนการนั้นเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ ก็เป็นเรื่องที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาโดยละเอียด

นายวิชา กล่าวว่า วันจันทร์นี้ พันตำรวจเอกธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการ ซึ่งถือเป็นพยานที่จะต้องดูแลมากที่สุด เพราะเป็นคนที่สำคัญที่จะทำให้คดีนำไปสู่ศาลหรือไม่ ต้องช่วยดูแลต้องประคับประคองไปเพราะไม่ได้เป็นพยานแค่นี้ แต่ต้องเป็นพยานในกระบวนการศาลด้วย ซึ่งจะต้องดูแลทุกเรื่องรวมถึงเรื่องความปลอดภัย ให้ได้รับสิ่งที่เรียกได้ว่าควรจะได้รับในฐานะการเป็นพยาน

ส่วนภาพรวมความคืบหน้าของคณะกรรมการ นายวิชากล่าวว่า ดำเนินการไปได้ด้วยดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พอใจในจุดหนึ่ง แต่อยากให้สอบให้ถูกใจประชาชน เพื่อเอาคดีไปถึงศาลให้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคณะกรรมการ คดีจะต้องไม่ยุติอยู่แค่นี้ จะต้องไปให้ถึงศาลให้ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไป ว่าความยุติธรรมยังคงอยู่

ส่วนแนวโน้มส่งฟ้องถึงศาลอีกครั้ง และแนวโน้ม การดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งไม่ฟ้อง นายวิชา กล่าวว่า ใครผิดใครถูกในกระบวนการก็ต้องว่ากันอีกขั้นตอนหนึ่ง จะเอาเรื่องใครผิดใครถูกก็ต้องละเอียดรอบคอบพอสมควร ต้องดูว่าบุคคลเหล่านั้นทำผิดเพราะอะไร เพราะความผิดพลาดของมนุษย์โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือว่าตั้งใจ หรือว่ามีอะไรกดดัน หรือว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังในกระบวนการ ก็ต้องดูโดยละเอียด ซึ่งตำรวจและอัยการต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ไม่เหมือนศาลที่มีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 เขียนไว้ชัดเจนว่าถ้าหากว่าทำอะไรผิด ผู้พิพากษาสามารถเพิกถอนได้ตลอดเวลา ซึ่งตนเองก็เคยทำ สั่งผิดแล้ววันรุ่งขึ้นก็สั่งใหม่ ซึ่งถือว่ามีความกล้าหาญ แก้ไขจากผิดเป็นถูก เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในโลก

ส่วนการนำคดีขึ้นสู่ศาลอีกครั้ง โดยให้ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็เป็นการตั้งธงในการสอบสวน ส่วนเรื่องหลักฐานใหม่ยังต้องพิจารณากันให้รอบคอบ เพราะหลักฐานใหม่นี้ จะใหม่จริงหรือไม่ มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาไว้พิจารณาอยู่แล้ว

ส่วนที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ค้นพบว่ามีนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการพยาน นายวิชา กล่าวว่า ก็อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการเช่นเดียวกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]