วิชา เตรียมเรียก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ และตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีบอส อยู่วิทยา

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 14 ส.ค.- วิชา เตรียมเรียก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ และตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีบอส อยู่วิทยา ย้ำต้องคุ้มครองดูแลความปลอดภัยพยาน เนตร ยันสั่งไม่ฟ้องเป็นอำนาจ ใช้ดุลยพินิจส่วนตัวโดยถูกต้อง ไม่ต้องรายงานอัยการสูงสุด อรรถพล เห็นช่องโหว่กฎหมาย เตรียมประชุมคณะกรรมการอัยการ 18 ส.ค.นี้ สอบคดีบอส


นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส แถลงหลังรับฟังการชี้แจงจากนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธว่า นายอรรถพล ยืนยันความคิดเห็นและข้อสังเกตที่ให้กับทางอัยการสูงสุดไปแล้ว ว่าในขณะที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร เป็นอัยการสูงสุด เคยสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมไปแล้ว และให้ดำเนินการฟ้องคดีไปตามคำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ แต่การที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด หยิบยกเรื่องร้องขอความเป็นธรรมขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่หยิบยกมาอีกไม่ได้ เว้นแต่ต้องรายงานให้อัยการสูงสุดคนปัจจุบันรับทราบด้วย ว่าได้สั่งการหรือดำเนินการไปประการใดประการหนึ่ง แต่ถ้าสั่งไปแล้วโดยไม่พิจารณารอบคอบ ถือว่าเป็นการสั่งฟ้องคดีโดยไม่ชอบ ซึ่งนายอรรถพลได้บอกว่านำประเด็นนี้หารือกับอัยการสูงสุดแล้ว แต่อัยการสูงสุดนิ่งเฉยไม่ตอบอะไร และอยากให้ตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบโดย ก.อ แต่อัยการสูงสุดได้สั่งตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบเองในฐานะผู้นำองค์กร แต่หาก ก.อ.มีคำสั่งประการใดที่เกี่ยวข้อง ก็อาจเกิดความขัดแย้งยุ่งยาก ซึ่งจะต้องรอฟังผลที่ประชุม ก.อ. จะพิจารณาซักถามกรณีนี้ในวันที่ 18 สิงหาคม

นายวิชา กล่าวว่า ความเห็นของนายอรรถพล ตรงกับความเห็นของศาสตราจารย์พิเศษ คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ว่า ไม่มีกฎหมายระบุไว้โดยตรงเกี่ยวกับร้องขอความเป็นธรรม ว่าผู้ที่ได้รับมอบอำนาจระดับรองอัยการสูงสุด สามารถดำเนินการได้หรือไม่ และสิ่งที่น่าสนใจคือนายเนตร นาคสุข ขณะปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ได้เป็นรองอัยการสูงสุดโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม โดยได้สั่งการไปในฐานะของอธิบดีอัยการศาลสูง รักษาราชการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด และปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นตำแหน่ง 3 ต่อกัน จึงเกิดประเด็นปัญหาที่น่าคิด ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานชุดนี้ด้วย โดยจะเชิญนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด มาชี้แจงกับคณะกรรมการภายในสัปดาห์หน้า


ส่วนการชี้แจงของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้องคดี นายวิชา กล่าวว่า นายเนตร ยืนยันว่าการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรม เป็นไปตามที่ทนายความร้องขอมา และทางสำนักคดีกิจการอัยการ เป็นฝ่ายที่ตั้งเรื่องมาว่า เห็นสมควรสั่งสอบเพิ่มเติม แล้วจึงได้ดูสำนวนจริงๆ ก็ตอนที่ตำรวจดำเนินการสอบเพิ่มเติมแล้ว โดยนายเนตรยืนยันว่าการสั่งไม่ฟ้องเป็นไปโดยถูกต้อง และไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของนายอรรถพล เพราะมั่นใจว่าสั่งโดยมีอำนาจ และสั่งเช่นนี้ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ ส่วนกรณีหยิบยกเรื่องขอความเป็นธรรมมา ก็เห็นว่าทำได้ตลอด ไม่ถือว่าคำสั่งนี้เป็นการลบล้างคำสั่งของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ เพราะเป็นการสั่งเฉพาะเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นการสั่งในสำนวน เพราะฉะนั้นจึงมีอำนาจเต็มบริบูรณ์ และยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องรายงานต่ออัยการสูงสุดเพราะถือว่ามีอำนาจโดยสูงสุดอยู่แล้ว ซึ่งทาง ก.อ. จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนที่นายเนตรตัดสินใจลาออก นายวิชากล่าวว่า นายเนตร ชี้แจงว่า ตัดสินใจด้วยตัวเองเพื่อเป็นผลดีต่อองค์กรให้หมดความยุ่งยากไป ให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นตัวถ่วงและอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่การลาออกมีผลต่อเมื่ออัยการสูงสุดสั่งอนุมัติการลาออก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งอนุมัติ จึงยังคงเป็นอัยการสูงสุดอยู่

ส่วนที่เคยมีรองอัยการสูงสุดดำเนินการใช่อำนาจเช่นเดียวกับนายเนตรหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า นายเนตรไม่ได้พูดถึง พูดแต่ในส่วนที่นายเนตรระบุเพียงว่าใช้อำนาจโดยไม่เคยรายงานต่ออัยการสูงสุด ขณะที่นายอรรพล ย้ำว่าการทำงานของอัยการมีช่องโหว่เยอะ จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะอยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อกฎหมาย และต้องนำเสนอด้วยว่า จะต้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จะเข้าไปอยู่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ หรือจะออกเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่าระเบียบ จะใช้บังคับอย่างไร ระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเดิมไม่มีกำหนดไว้โดยสามารถขอความเป็นธรรมเป็นร้อยครั้งก็ได้ เมื่อขึ้นไปถึงศาลจะขอให้อัยการถอนฟ้องก็ยังได้


ส่วนความคืบหน้าของคณะทำงานตรวจสอบบุคคลทั่วไป ที่มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน นายวิชากล่าวว่า ได้ความคืบหน้านี้เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องความเร็วของรถ เรื่องโคเคน โดยได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย และจะนำมาประกอบการพิจารณาว่าการทำสำนวนบกพร่องจริงหรือไม่ โดยได้รับสำนวนของทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทางตำรวจก็มีความคืบหน้าตลอดเวลา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการ เกี่ยวกับการใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 หรือไม่ อย่างไร หรือจะถือว่ากระบวนการนั้นเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ ก็เป็นเรื่องที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาโดยละเอียด

นายวิชา กล่าวว่า วันจันทร์นี้ พันตำรวจเอกธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการ ซึ่งถือเป็นพยานที่จะต้องดูแลมากที่สุด เพราะเป็นคนที่สำคัญที่จะทำให้คดีนำไปสู่ศาลหรือไม่ ต้องช่วยดูแลต้องประคับประคองไปเพราะไม่ได้เป็นพยานแค่นี้ แต่ต้องเป็นพยานในกระบวนการศาลด้วย ซึ่งจะต้องดูแลทุกเรื่องรวมถึงเรื่องความปลอดภัย ให้ได้รับสิ่งที่เรียกได้ว่าควรจะได้รับในฐานะการเป็นพยาน

ส่วนภาพรวมความคืบหน้าของคณะกรรมการ นายวิชากล่าวว่า ดำเนินการไปได้ด้วยดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พอใจในจุดหนึ่ง แต่อยากให้สอบให้ถูกใจประชาชน เพื่อเอาคดีไปถึงศาลให้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของคณะกรรมการ คดีจะต้องไม่ยุติอยู่แค่นี้ จะต้องไปให้ถึงศาลให้ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไป ว่าความยุติธรรมยังคงอยู่

ส่วนแนวโน้มส่งฟ้องถึงศาลอีกครั้ง และแนวโน้ม การดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งไม่ฟ้อง นายวิชา กล่าวว่า ใครผิดใครถูกในกระบวนการก็ต้องว่ากันอีกขั้นตอนหนึ่ง จะเอาเรื่องใครผิดใครถูกก็ต้องละเอียดรอบคอบพอสมควร ต้องดูว่าบุคคลเหล่านั้นทำผิดเพราะอะไร เพราะความผิดพลาดของมนุษย์โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือว่าตั้งใจ หรือว่ามีอะไรกดดัน หรือว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังในกระบวนการ ก็ต้องดูโดยละเอียด ซึ่งตำรวจและอัยการต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ไม่เหมือนศาลที่มีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 เขียนไว้ชัดเจนว่าถ้าหากว่าทำอะไรผิด ผู้พิพากษาสามารถเพิกถอนได้ตลอดเวลา ซึ่งตนเองก็เคยทำ สั่งผิดแล้ววันรุ่งขึ้นก็สั่งใหม่ ซึ่งถือว่ามีความกล้าหาญ แก้ไขจากผิดเป็นถูก เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในโลก

ส่วนการนำคดีขึ้นสู่ศาลอีกครั้ง โดยให้ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็เป็นการตั้งธงในการสอบสวน ส่วนเรื่องหลักฐานใหม่ยังต้องพิจารณากันให้รอบคอบ เพราะหลักฐานใหม่นี้ จะใหม่จริงหรือไม่ มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาไว้พิจารณาอยู่แล้ว

ส่วนที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ค้นพบว่ามีนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการพยาน นายวิชา กล่าวว่า ก็อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการเช่นเดียวกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 10 มิ.ย.-สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (9 มิ.ย.68) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ , พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา.-313.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม

กทม. 10 มิ.ย.- พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา ที่ รพ.พระมงกุฎฯ อายุ 91 ปี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 01.57 น. ที่ รพ.พระมงกุฎฯ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน กำหนดการพิธีศพ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป สำหรับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร (เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2476) เป็นนายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ […]

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย