ทบ.ขอมั่นใจทหารสหรัฐปฏิบัติตามมาตรการศบค.

กองทัพบก 3 ส.ค.-ผอ.ศบค.ทบ.ขอให้มั่นใจมาตรฐานสาธารณสุขไทย อย่าห่วงทหารสหรัฐฯ เข้าไทย ต้องกักตัว 14 วัน ไม่ปล่อยทำนอกลู่นอกทาง ระบุจำเป็นต้องฝึกต่อเนื่อง ทหารต้องพัฒนา คาดโทษหน่วย ถ้าพลาดจุดไหน ต้องรับผิดชอบ


พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ผอ.ศบค.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีทหารจากสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวน 71 นาย และจากญี่ปุ่น 32 นาย โดยเข้ารับการกักตัวใน state quarantine โรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. ว่า กองทัพบกไทยและสหรัฐฯ ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ที่จะต้องปฏิบัติงานร่วมกัน และมีระบบงานที่เกี่ยวข้องกับทางทหารในภูมิภาค

“ในส่วนของทหารสหรัฐฯ 71 คนที่เข้ามา เป็นเรื่องความต่อเนื่องการฝึกร่วมผสมรหัส “หนุมานการ์เดียน” ที่ดำเนินการมากว่า 20 ปี โดยในปีที่ผ่านมาได้วางกลไกไว้ว่าจะไม่เน้นการฝึกเพียงอย่างเดียว แต่จะแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ จึงนำมาสู่การเดินทางเข้ามาครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยส่งทหารไปเรียนต่างประเทศหลายเหล่า และทางสหรัฐฯมองว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ที่ประเทศไทยได้ โดยพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่าถ้าเป็นเช่นนั้นให้คณะครูอาจารย์ของสหรัฐและไทยมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว


พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ทหาร 71 นายเป็นคณะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญทหารสหรัฐฯ ที่จะมาเป็นโค้ชหรือเทรนเนอร์ ประกอบด้วย ผู้แทนส่งกำลังบำรุง ผู้แทนหน่วยทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะครูอาจารย์ของกองทัพบกไทย เพื่อพัฒนาการฝึกทั้งหมด ที่จะทำให้กองทัพบกไทยได้ประโยชน์เต็มที่ ส่วนการฝึกหน้างานจะมีเพียงการฝึกเล็ก ๆเท่านั้น ยืนยันว่าทุกคนที่เข้ามาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของศบค. ซึ่งกองทัพบกได้พูดคุยกับสหรัฐฯ แล้ว และทางสหรัฐฯไม่มีปัญหา โดยยินยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน รวมทั้งการตรวจสวอป เทสต์ 2 ครั้งด้วย เช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ

“เมื่อพ้น14 วันไปแล้ว จึงจะพบกับทหารไทย และจะไม่ให้ทหารสหรัฐฯออกนอกค่าย จะไปเดินห้างเดินตลาดไม่ได้ จะมีคนติดตาม หากไปค่ายไหนก็ต้องปิดค่าย จะไม่มีการไปกินเลี้ยงที่ไหน ทั้งนี้ จะมีทหารไทยที่ต้องร่วมฝึกสัดส่วน 1 ต่อ 3 ไม่เกิน 50 คน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

ส่วนทหารที่มาจากประเทศญี่ปุ่น พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า เป็นทหารสหรัฐฯที่ประจำการในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 32 นาย เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิบัติกิจกรรมของหน่วยรบพิเศษ ส่วนอีก 3 นายเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่มากับคณะ รวมเป็น 35 นาย และทั้งหมดจะอยู่ประเทศไทยถึงสิ้นเดือนนี้ โดยวันที่ 3-16 สิงหาคมจะอยู่ใน state quarantine และวันที่ 18 สิงหาคมจะปล่อยตัวให้ไปทำกิจกรรม


“ทั้งหมดต้องผ่านการสวอปเทสต์ หากพบติดเชื้อจะส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที โดยต้องออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง รวมถึงค่าที่พักที่เป็นสถานที่กักตัวด้วย ขอให้ความมั่นใจ ที่เป็นห่วงกันว่าคนเหล่านี้มาแล้วจะแพร่เชื้อหรือไม่นั้น ต้องกักตัว 14 วันแม้จะตรวจมาจากต่างประเทศแล้ว เราก็ไม่เชื่อ ต้องตรวจที่ไทยและต้องเห็นกับตา การเข้ามาจะไม่มีอภิสิทธิ์ใด ๆ หากทางสหรัฐฯ ยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ เขาก็เข้ามาได้” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องอบรมช่วงนี้ สามารถเลื่อนออกไปก่อนได้หรือไม่ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า กองทัพบกเข้าใจความรู้สึกประชาชนดี แต่ต้องเข้าใจว่าไทยอยู่ในช่วงที่มีมาตรการผ่อนคลาย ไม่ได้ปิดประเทศ จึงใช้มาตรการดังกล่าวปฏิบัติควบคู่กับการฝึกอบรม ระบบของไทยมีมาตรฐานสูง สามารถเอาอยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เพราะเข้ามาตามมาตรฐานของศบค. ไม่ปล่อยให้ออกไปทำนอกลู่นอกทาง

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ระบุว่ากองทัพบกจะชะลอการฝึกไปกว่า 2,000 คน แต่เหตุใดจึงมีทหารต่างชาติเข้ามา พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ที่ระบุว่าชะลอคือการไม่ส่งกำลังพลไปฝึกต่างประเทศ ทั้งนี้ การฝึกรหัสหนุมานการ์เดียนและการฝึก lightning forge 2020 เราจะต้องจัดส่งผู้เชี่ยวชาญไปที่รัฐหลุยเซียร์น่า สหรัฐฯ แต่ขณะนี้ได้ชะลอแล้วและพิจารณาทบทวนใหม่ทั้งหมด ส่วนกรณีนี้เป็นเรื่องความผูกกันทางการเรียนการสอน และไม่ทำอะไรนอกระบบ
เมื่อถามย้ำว่า สหรัฐฯเป็นประเทศเสี่ยงมาก เหตุใดปล่อยให้เดินทางเข้าประเทศไทย

พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ดำเนินการเช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับมา ต้องเข้ารับการกักตัวตามระบบศบค. ยืนยันว่ากองทัพบกมีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อถามถึงความคุ้มค่าจากการฝึกของทหารสหรัฐที่เดินทางมาและต้องเสี่ยงกับเรื่องนี้ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ความคุ้มค่าเกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและถูกจุดที่กองทัพต้องพัฒนาศักยภาพ หากเลื่อนไปปีหน้าจะกระทบแผนการต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ที่จะต้องเลื่อนไปหมด

“ขอย้ำว่ามาตรการที่ใช้ดีพอและมีมาตรฐานสูงมากที่ใช้กับเขา เราไม่ได้ปล่อยให้เข้าประเทศมาเพ่นพ่าน ให้เข้าตามระเบียบเหมือนที่คนไทยเข้า ไม่อย่างนั้นคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาถือว่าเสี่ยงหมด ยืนยันพยายามทำทุกวิถีทาง เพราะประเทศเราไม่ได้ปิด การพัฒนาศักยภาพกองทัพเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรัษาระเบียบศบค. คือสิ่งที่พยายามทำ ส่วนการฝึกหลังจากนี้จะมีเข้ามาอยู่บ้าง แต่จะเป็นการฝึกขนาดเล็ก ที่มีจำนวนทหารเข้ามาจำนวนน้อยที่เรียกว่าโครงการฝึกไม่ได้แล้ว New Normal ต้องมีเพื่อป้องกัน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์หลังศบค.แถลงว่าทหารสหรัฐฯ จะเข้ามา เนื่องจากประชาชนมีความเป็นห่วงกังวลถึงหลักประกันที่จะไปแพร่เชื้อ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด และทหารกลัวยิ่งกว่าประชาชน ทั้งการเสียชื่อและภาพลักษณ์

“ส่วนจะให้ความมั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่ามากอยู่ แต่จะบอกว่าเต็มร้อยก็ไม่มีใครรับประกันขนาดนั้น แต่โอกาสพลาดที่จะมีหลุดออกมายาก เพราะหากมี เท่ากับว่าการสวอฟ 2 ครั้งและการกักตัว 14 วันไม่เป็นผลลบ ทหารกลุ่มนี้จะไปฝึกที่ค่ายฝึกรบพิเศษ ค่ายทหารเหล่าราบ เหล่าปืน เหล่าม้า ซึ่งจะไปในค่ายใหญ่ ๆ ไม่ได้ไปหน่วยย่อย” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพลาดครั้งนี้จะเป็นบทเรียนครั้งที่4 ใช่หรือไม่ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ขออย่านับครั้งเลย เพราะเหมือนกับพูดอะไรต้องรักษาคำพูด และว่า “ผู้บัญชาการทหารบกเป็นห่วงและเอาใจช่วย อีกทั้งคอยเสริมมาตรการในแต่ละจุดให้เพียงพอ จุดไหนให้เป็นผู้กำกับและรับผิดชอบ รวมถึงจุดที่จะต้องมารับช่วงต่อของหน่วยที่เกี่ยวข้อง ห้ามเกิดข้อผิดพลาด ต้องลงไปจี้และมีผู้กำกับอีกชั้น และถ้าจุดไหนหละหลวมทำให้หลุดลอดมาได้ คนที่ดูแลจุดนั้นต้องรับผิดชอบ”

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่แก้ที่ต้นทางด้วยการไม่ให้เข้าประเทศตั้งแต่แรก พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า เพราะเราไม่ได้ปิดประเทศตั้งแต่แรก เราจำเป็นต้องอยู่รอด ภายใต้การสร้างความแข็งแกร่งให้ประชาคมโลกเห็นว่ามาตรฐานสาธารณสุขไทยเข้มแข็งพอที่แก้ไขปัญหาได้ เราต้องรักษาดุลยภาพของความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งทหารจำกัดประสิทธิภาพตัวเองไม่ได้ ต้องพัฒนาแล้วนำบทเรียนมาเป็นที่ตั้งว่าเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร

ส่วนที่ว่าหากพบการแพร่ระบาดจากกรณีนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ถ้ามีข้อผิดพลาดออกมาจากทางไหน หน่วยงานนั้นต้องรับผิดชอบ คนประจำจุดต่าง ๆ ต้องรับผิดชอบ เพราะผู้บัญชาการทหารบกเน้นย้ำทุกขั้นตอนไม่ให้ผิดพลาด แต่ละจุดที่รับ-ส่งจะต้องรัดกุม หากเล็ดรอดหรือหลุดตรงจุดไหนจุดตรงนั้นต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนจากกรณีที่ส่งไปฝึก 151 นายที่สหรัฐฯ กลับมาแล้วพบติดเชื้อ 9 นาย ถือว่าเจ็บแล้วจำ เราพยายามเต็มที่ ส่วนครั้งนี้ต้องทำให้ดี เพราะหากเล็ดรอดออกไปเท่ากับว่าระบบกักกันของไทยใช้ไม่ได้แล้ว

พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ที่ทหารสหรัฐฯ จะมาฝึกร่วม 1 หมื่นนายในช่วงต้นปี 2564 ว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับรูปแบบหรือเลื่อนการฝึกหรือไม่ ซึ่งการฝึกรหัสดังกล่าวจะหารือวางแผนการฝึก ซึ่งเมื่อมีสถานการณ์โควิดจบ ก็ต้องพิจารณาต่อไป และคงต่อสายคุยกัน เมื่อเราปิดประเทศไม่ได้ ต้องทำมาค้าขายด้วย ความมั่นคงก็เช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานส่า สำหรับทหารสหรัฐ ฯ ที่มาครั้งนี้ เที่ยวบินแรก ที่มาจากเกาะกวม จำนวน 71 นาย ฝึก SFAB SMEE ของกองทัพบก มีหลายเหล่า ทั้งราบ ม้า ปืน รบพิเศษเที่ยวบินที่สอง มาจากฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น (โยโกตา) จำนวน 32 นาย ฝึก Balance Torchเที่ยวบินที่สาม มาจากฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 7 นาย โดย 4 นายฝึก HMA Ex การฝึกปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และอีก 3 นาย ฝึก Vector Balance Torch.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย