ทบ.ขอมั่นใจทหารสหรัฐปฏิบัติตามมาตรการศบค.

กองทัพบก 3 ส.ค.-ผอ.ศบค.ทบ.ขอให้มั่นใจมาตรฐานสาธารณสุขไทย อย่าห่วงทหารสหรัฐฯ เข้าไทย ต้องกักตัว 14 วัน ไม่ปล่อยทำนอกลู่นอกทาง ระบุจำเป็นต้องฝึกต่อเนื่อง ทหารต้องพัฒนา คาดโทษหน่วย ถ้าพลาดจุดไหน ต้องรับผิดชอบ


พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ผอ.ศบค.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีทหารจากสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวน 71 นาย และจากญี่ปุ่น 32 นาย โดยเข้ารับการกักตัวใน state quarantine โรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. ว่า กองทัพบกไทยและสหรัฐฯ ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ที่จะต้องปฏิบัติงานร่วมกัน และมีระบบงานที่เกี่ยวข้องกับทางทหารในภูมิภาค

“ในส่วนของทหารสหรัฐฯ 71 คนที่เข้ามา เป็นเรื่องความต่อเนื่องการฝึกร่วมผสมรหัส “หนุมานการ์เดียน” ที่ดำเนินการมากว่า 20 ปี โดยในปีที่ผ่านมาได้วางกลไกไว้ว่าจะไม่เน้นการฝึกเพียงอย่างเดียว แต่จะแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ จึงนำมาสู่การเดินทางเข้ามาครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยส่งทหารไปเรียนต่างประเทศหลายเหล่า และทางสหรัฐฯมองว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ที่ประเทศไทยได้ โดยพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่าถ้าเป็นเช่นนั้นให้คณะครูอาจารย์ของสหรัฐและไทยมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว


พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ทหาร 71 นายเป็นคณะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญทหารสหรัฐฯ ที่จะมาเป็นโค้ชหรือเทรนเนอร์ ประกอบด้วย ผู้แทนส่งกำลังบำรุง ผู้แทนหน่วยทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะครูอาจารย์ของกองทัพบกไทย เพื่อพัฒนาการฝึกทั้งหมด ที่จะทำให้กองทัพบกไทยได้ประโยชน์เต็มที่ ส่วนการฝึกหน้างานจะมีเพียงการฝึกเล็ก ๆเท่านั้น ยืนยันว่าทุกคนที่เข้ามาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของศบค. ซึ่งกองทัพบกได้พูดคุยกับสหรัฐฯ แล้ว และทางสหรัฐฯไม่มีปัญหา โดยยินยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน รวมทั้งการตรวจสวอป เทสต์ 2 ครั้งด้วย เช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ

“เมื่อพ้น14 วันไปแล้ว จึงจะพบกับทหารไทย และจะไม่ให้ทหารสหรัฐฯออกนอกค่าย จะไปเดินห้างเดินตลาดไม่ได้ จะมีคนติดตาม หากไปค่ายไหนก็ต้องปิดค่าย จะไม่มีการไปกินเลี้ยงที่ไหน ทั้งนี้ จะมีทหารไทยที่ต้องร่วมฝึกสัดส่วน 1 ต่อ 3 ไม่เกิน 50 คน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

ส่วนทหารที่มาจากประเทศญี่ปุ่น พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า เป็นทหารสหรัฐฯที่ประจำการในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 32 นาย เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิบัติกิจกรรมของหน่วยรบพิเศษ ส่วนอีก 3 นายเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่มากับคณะ รวมเป็น 35 นาย และทั้งหมดจะอยู่ประเทศไทยถึงสิ้นเดือนนี้ โดยวันที่ 3-16 สิงหาคมจะอยู่ใน state quarantine และวันที่ 18 สิงหาคมจะปล่อยตัวให้ไปทำกิจกรรม


“ทั้งหมดต้องผ่านการสวอปเทสต์ หากพบติดเชื้อจะส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที โดยต้องออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง รวมถึงค่าที่พักที่เป็นสถานที่กักตัวด้วย ขอให้ความมั่นใจ ที่เป็นห่วงกันว่าคนเหล่านี้มาแล้วจะแพร่เชื้อหรือไม่นั้น ต้องกักตัว 14 วันแม้จะตรวจมาจากต่างประเทศแล้ว เราก็ไม่เชื่อ ต้องตรวจที่ไทยและต้องเห็นกับตา การเข้ามาจะไม่มีอภิสิทธิ์ใด ๆ หากทางสหรัฐฯ ยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ เขาก็เข้ามาได้” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องอบรมช่วงนี้ สามารถเลื่อนออกไปก่อนได้หรือไม่ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า กองทัพบกเข้าใจความรู้สึกประชาชนดี แต่ต้องเข้าใจว่าไทยอยู่ในช่วงที่มีมาตรการผ่อนคลาย ไม่ได้ปิดประเทศ จึงใช้มาตรการดังกล่าวปฏิบัติควบคู่กับการฝึกอบรม ระบบของไทยมีมาตรฐานสูง สามารถเอาอยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เพราะเข้ามาตามมาตรฐานของศบค. ไม่ปล่อยให้ออกไปทำนอกลู่นอกทาง

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ระบุว่ากองทัพบกจะชะลอการฝึกไปกว่า 2,000 คน แต่เหตุใดจึงมีทหารต่างชาติเข้ามา พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ที่ระบุว่าชะลอคือการไม่ส่งกำลังพลไปฝึกต่างประเทศ ทั้งนี้ การฝึกรหัสหนุมานการ์เดียนและการฝึก lightning forge 2020 เราจะต้องจัดส่งผู้เชี่ยวชาญไปที่รัฐหลุยเซียร์น่า สหรัฐฯ แต่ขณะนี้ได้ชะลอแล้วและพิจารณาทบทวนใหม่ทั้งหมด ส่วนกรณีนี้เป็นเรื่องความผูกกันทางการเรียนการสอน และไม่ทำอะไรนอกระบบ
เมื่อถามย้ำว่า สหรัฐฯเป็นประเทศเสี่ยงมาก เหตุใดปล่อยให้เดินทางเข้าประเทศไทย

พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ดำเนินการเช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับมา ต้องเข้ารับการกักตัวตามระบบศบค. ยืนยันว่ากองทัพบกมีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อถามถึงความคุ้มค่าจากการฝึกของทหารสหรัฐที่เดินทางมาและต้องเสี่ยงกับเรื่องนี้ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ความคุ้มค่าเกิดจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและถูกจุดที่กองทัพต้องพัฒนาศักยภาพ หากเลื่อนไปปีหน้าจะกระทบแผนการต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ที่จะต้องเลื่อนไปหมด

“ขอย้ำว่ามาตรการที่ใช้ดีพอและมีมาตรฐานสูงมากที่ใช้กับเขา เราไม่ได้ปล่อยให้เข้าประเทศมาเพ่นพ่าน ให้เข้าตามระเบียบเหมือนที่คนไทยเข้า ไม่อย่างนั้นคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาถือว่าเสี่ยงหมด ยืนยันพยายามทำทุกวิถีทาง เพราะประเทศเราไม่ได้ปิด การพัฒนาศักยภาพกองทัพเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรัษาระเบียบศบค. คือสิ่งที่พยายามทำ ส่วนการฝึกหลังจากนี้จะมีเข้ามาอยู่บ้าง แต่จะเป็นการฝึกขนาดเล็ก ที่มีจำนวนทหารเข้ามาจำนวนน้อยที่เรียกว่าโครงการฝึกไม่ได้แล้ว New Normal ต้องมีเพื่อป้องกัน” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์หลังศบค.แถลงว่าทหารสหรัฐฯ จะเข้ามา เนื่องจากประชาชนมีความเป็นห่วงกังวลถึงหลักประกันที่จะไปแพร่เชื้อ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด และทหารกลัวยิ่งกว่าประชาชน ทั้งการเสียชื่อและภาพลักษณ์

“ส่วนจะให้ความมั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่ามากอยู่ แต่จะบอกว่าเต็มร้อยก็ไม่มีใครรับประกันขนาดนั้น แต่โอกาสพลาดที่จะมีหลุดออกมายาก เพราะหากมี เท่ากับว่าการสวอฟ 2 ครั้งและการกักตัว 14 วันไม่เป็นผลลบ ทหารกลุ่มนี้จะไปฝึกที่ค่ายฝึกรบพิเศษ ค่ายทหารเหล่าราบ เหล่าปืน เหล่าม้า ซึ่งจะไปในค่ายใหญ่ ๆ ไม่ได้ไปหน่วยย่อย” พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพลาดครั้งนี้จะเป็นบทเรียนครั้งที่4 ใช่หรือไม่ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ขออย่านับครั้งเลย เพราะเหมือนกับพูดอะไรต้องรักษาคำพูด และว่า “ผู้บัญชาการทหารบกเป็นห่วงและเอาใจช่วย อีกทั้งคอยเสริมมาตรการในแต่ละจุดให้เพียงพอ จุดไหนให้เป็นผู้กำกับและรับผิดชอบ รวมถึงจุดที่จะต้องมารับช่วงต่อของหน่วยที่เกี่ยวข้อง ห้ามเกิดข้อผิดพลาด ต้องลงไปจี้และมีผู้กำกับอีกชั้น และถ้าจุดไหนหละหลวมทำให้หลุดลอดมาได้ คนที่ดูแลจุดนั้นต้องรับผิดชอบ”

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่แก้ที่ต้นทางด้วยการไม่ให้เข้าประเทศตั้งแต่แรก พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า เพราะเราไม่ได้ปิดประเทศตั้งแต่แรก เราจำเป็นต้องอยู่รอด ภายใต้การสร้างความแข็งแกร่งให้ประชาคมโลกเห็นว่ามาตรฐานสาธารณสุขไทยเข้มแข็งพอที่แก้ไขปัญหาได้ เราต้องรักษาดุลยภาพของความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งทหารจำกัดประสิทธิภาพตัวเองไม่ได้ ต้องพัฒนาแล้วนำบทเรียนมาเป็นที่ตั้งว่าเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร

ส่วนที่ว่าหากพบการแพร่ระบาดจากกรณีนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวว่า ถ้ามีข้อผิดพลาดออกมาจากทางไหน หน่วยงานนั้นต้องรับผิดชอบ คนประจำจุดต่าง ๆ ต้องรับผิดชอบ เพราะผู้บัญชาการทหารบกเน้นย้ำทุกขั้นตอนไม่ให้ผิดพลาด แต่ละจุดที่รับ-ส่งจะต้องรัดกุม หากเล็ดรอดหรือหลุดตรงจุดไหนจุดตรงนั้นต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนจากกรณีที่ส่งไปฝึก 151 นายที่สหรัฐฯ กลับมาแล้วพบติดเชื้อ 9 นาย ถือว่าเจ็บแล้วจำ เราพยายามเต็มที่ ส่วนครั้งนี้ต้องทำให้ดี เพราะหากเล็ดรอดออกไปเท่ากับว่าระบบกักกันของไทยใช้ไม่ได้แล้ว

พล.อ.ณฐพนธ์ กล่าวถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ที่ทหารสหรัฐฯ จะมาฝึกร่วม 1 หมื่นนายในช่วงต้นปี 2564 ว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับรูปแบบหรือเลื่อนการฝึกหรือไม่ ซึ่งการฝึกรหัสดังกล่าวจะหารือวางแผนการฝึก ซึ่งเมื่อมีสถานการณ์โควิดจบ ก็ต้องพิจารณาต่อไป และคงต่อสายคุยกัน เมื่อเราปิดประเทศไม่ได้ ต้องทำมาค้าขายด้วย ความมั่นคงก็เช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานส่า สำหรับทหารสหรัฐ ฯ ที่มาครั้งนี้ เที่ยวบินแรก ที่มาจากเกาะกวม จำนวน 71 นาย ฝึก SFAB SMEE ของกองทัพบก มีหลายเหล่า ทั้งราบ ม้า ปืน รบพิเศษเที่ยวบินที่สอง มาจากฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น (โยโกตา) จำนวน 32 นาย ฝึก Balance Torchเที่ยวบินที่สาม มาจากฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 7 นาย โดย 4 นายฝึก HMA Ex การฝึกปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และอีก 3 นาย ฝึก Vector Balance Torch.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]