ประธานวิปฝ่ายค้านสรุป 4 วัน อภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐสภา 22 ก.ค. – ฝ่ายค้านใช้เวลา 4 วัน อภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีรายบุคคล ประธานวิปฝ่ายค้าน ชี้คำตอบรัฐมนตรีนั่งร้านไม่เคลียร์-ตอบไม่ได้


นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านลุกขึ้นสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หลังจากที่ฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปราย 4 วัน โดยนายสุทินได้สรุปการอภิปรายเป็นรายบุคคล เริ่มจากนานอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกัญชาเสรี ว่านายอนุทินยังไม่สามารถตอบคำถามเรื่องนี้ได้ชัดเจน แถมบางคำตอบยังเป็นการยอมรับด้วยว่าการปลดล็อกกัญชาของไทยเป็นการละเมิดอนุสัญญาของยูเอ็น ซึ่งระบุว่ากัญชายังเป็นยาเสพติด แต่นายอนุทินกลับบอกว่าเหตุใดจะต้องไปทำตามประเทศอื่น ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่าจะควบคุมกัญชาเสรีได้ โดยเฉพาะการเสพในกลุ่มเยาวชนแม้ขณะนี้จะมีประกาศกระทรวงก็ตาม ยืนยันไม่ด้อยค่ากัญชาเพราะมีประโยชน์ทางการแพทย์ และทดลอง แต่ต้องไม่มองข้ามเรื่องโทษ

ส่วนนายกรัฐมนตรี ต้นทุนต่างประเทศก็ต่ำอยู่แล้ว ตนเห็นใจแต่ก็สมน้ำหน้าเพราะยึดอำนาจมาเอง แล้ววันนี้ยังไปขัดยูเอ็นอีก


ทั้งนี้ระหว่างที่นายสุทิน สรุปปิดอภิปรายนายอนุทิน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงหลายครั้ง และขอใช้สิทธิพาดพิง จนถูกฝ่ายค้านมองว่าพยายามอภิปรายแทนทั้งที่ไม่สามารถทำได้ จึงมีการโต้แย้งกันไปมาระหว่างนายศุภชัย กับนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีช่วงหนึ่งนายศุภชัยพูดกับนายวิสารว่า “เอามีดไปสักเล่มไหม”

จากนั้นนายศุภชัย โพธิ์สุ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยให้นายสุทินอภิปรายต่อ แต่ระหว่างนั้นนาย นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ได้เดินไปชนหมัดกับนายศุภชัย

สำหรับกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมาชิกยังติดใจเรื่องรุกที่ดินเขากระโดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ที่นายศักดิ์สยาม เป็นรัฐมนตรี จึงสงสัยว่าที่การดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะไม่กล้าหรือไม่ และประเด็นการซุกหุ้นบริษัทบุรีเจริญ ที่เชื่อว่าขายหุ้นไปแล้ว ไม่จริง แต่เป็นการยักย้ายถ่ายเทเอานอมินีมารับ ซึ่งบริษัทนี้รับงานจากกระทรวงคมนาคม จึงเป็นที่สงสัย และที่นำหลักฐานการโอนเงินซื้อขายหุ้นมาแสดง คณะทำงานฝ่ายค้านที่ศึกษาเรื่องนี้เห็นว่า เอกสารที่นำมาแสดงมีพิรุธ หากเป็นเอกสารของธนาคาร เหตุใดไม่มีหัวกระดาษของธนาคาร และลายเซ็นเหมือนตัดแปะ ตกขอบออกมาข้างนอก และรายการโอนหุ้นวันแรกเหตุใดจึงโอนเงินก่อนซื้อขายหุ้น 5-6 เดือน จึงเชื่อว่าไม่ได้มีการซื้อขายหุ้นจริง จึงสรุปว่าเอกสารนี้ไม่จริง แสดงว่าบุรีเจริญ ยังเป็นของนายศักดิ์สยาม เท่ากับมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากเป็นเช่นนี้ ถึงขั้นต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี


ส่วนข้อกล่าวหานายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่ใช้เงินกองทุนประกันสังคมไปซื้อหุ้นของบริษัทเอกชนราย 1 แล้วบริษัทดังกล่าวนำไปปั่นหุ้นและกระจายหุ้น นำเงินกลับมาซื้อหุ้นในครอบครัวของนายสุชาติ ซึ่งนายสุชาติได้ตอบว่าไม่เคยมีความรู้เรื่องหุ้น คณะทำงานของพรรคก็มองว่าไม่น่าเชื่อถือ

นายสุทิน ยังสรุปข้อกล่าวหา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นโครงการเดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ที่เกาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยคนที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ เป็นคนใกล้ชิดของนายนิพนธ์และพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ กรณีนี้ เสมือนสปก.ภาค 2 ซึ่งในนิพนธ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วเชื่อว่าเป็นพวกเดียวกัน เข้าข่ายใช้อำนาจหน้าที่ในทางอ้อมเพื่อประโยชน์ให้พวกพ้อง จึงไม่น่าไว้วางใจ

สำหรับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ยอมรับว่ามีการใช้สปายแวร์ หรือระบบเพกาซัส ในการเจาะข้อมูลมือถือประชาชนจริง แม้จะยืนยันว่า ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่ก็ยังมีเกิดขึ้น แสดงว่ารัฐมนตรี ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาดีอีเอส เน้นทำงานสอดแนมและปราบปราบแต่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมากกว่า จึงขอให้เปลี่ยนรัฐมนตรีคนอื่นมาแก้ไขเรื่องนี้

ส่วนพฤติกรรมการตั้งเพื่อนสนิทขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาในกระทรวง และไปรับงานศูนย์เศรษฐดิจิทัลชุมชน 700 แห่ง ที่พบว่า มีการฮั้วประมูล ทุจริต แต่รัฐมนตรี กลับยอมรับว่า เป็นเพื่อนผิดตรงไหน ถ้าหากเพื่อนไปรับงาน ก็ถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ทำให้เชื่อว่า มีการทุจริตจริง และมีพยานหลักฐาน

สำหรับในข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์จงใจ เสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดีฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถือเป็นเรื่องสำคัญ ฝ่ายค้านก็คิดหนักที่จะหยิบยกมาอภิปราย แต่ก็มีมติให้นางสาวชนก จันทร์ทาทอง ส.ส.หนองคาย ขึ้นมาอภิปราย โดยเรื่องนี้ ผู้หญิงต้องแค้นเคือง ที่ฝ่ายชายไปยกย่องหญิงอื่นหรือมีชู้ จึงมองว่าผู้หญิงด้วยกันต้องปกป้อง จึงอภิปรายเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง แต่ก็เกิดความวุ่นวาย เพราะนายชัยวุฒิ กลับตำหนิ นางสาวชนก ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ไปแก้กฎหมายประมวลจริยธรรม แต่หากยังอยู่ในจริยธรรมก็ต้องบังคับใช้กฎหมายข้อนี้ เมื่อทำผิด ก็ต้องว่ากันตามนั้น

ดังนั้น ผู้ชายต้องระมัดระวัง อย่าทำอะไรเปิดเผย เรื่องนี้อาจมีทั่วบ้านทั่วเมือง หากมีความละอาย ก็อาจมีการปกปิด แต่หากไม่ให้เกียรติภรรยา ก็ไม่ละอายต่อบาป คนไม่ดีต่างกัน แต่เราจะบริหารจัดการได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเห็นแก่เด็ก ต้องจัดการกับพ่อที่เป็นต้นตอ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นการถูกกล่าวหาทุจริตถุงมือยางภาคสอง ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. พรรคเพื่อไทยเป็นผู้อภิปราย ตั้งแต่ภาคแรกต่อเนื่องถึงภาคสอง ซึ่งภาคแรกได้ยื่น ป.ป.ช.ไปแล้ว และ ป.ป.ช. เห็นว่ามีมูล ป.ป.ช. จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องแล้วรวม 22 ราย

โดยนายสุทิน ยอมรับว่านายจุรินทร์ เก่งสามารถตอบคำถามได้ แต่ก็มีพิรุธโดยเฉพาะขั้นตอนการตั้งกรรมการตรวจสอบเอาผิด และสุดท้ายก็โยงมาที่เรื่องรับจำนำข้าวเพื่อหาตัวช่วย ทำให้พิรุธมันออกอาการมันชัด ฝ่ายค้านจึงปักใจเชื่อว่านายจุรินทร์ไม่สุจริตจริง เป็นไปตามญัตติที่ฝ่ายค้านกล่าวหา

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีหน้าที่ดูแลคนยากคนจน โดยเฉพาะเรื่องของการเคหะแห่งชาติ ที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวหาว่าเกิดการไม่สุจริตโครงการเคหะ ที่มีบริษัทเซมโก้ที่รับงานของการเคหะจำนวนมาก โดยเฉพาะการถมดินที่มี 38 โครงการ ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบพบว่าไม่มีความสามารถและไม่เคยดูแลโครงการเคหะ รวมถึงสถานะการเงินก็มีน้อย ซึ่งทางรัฐมนตรีก็ไม่ตอบชี้แจงในวันที่โดนอภิปราย แต่กลับมาชี้แจงอีกวันภายหลังการอภิปรายว่าบริษัทเซมโก้สามารถรับงานได้ เนื่องจากเป็นบริษัทในลักษณะบริษัทลูกของการเคหะ แต่เมื่อดูการชี้แจงพบว่ายังมีช่องว่างที่ยังมีพิรุธอีกเยอะ จึงไม่สามารถที่จะไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปได้

สำหรับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมธนารักษ์ โครงการท่อส่งน้ำใน eec ที่ส่อล็อกสเปคการดำเนินกระบวนการดังกล่าว โดยอ้างทำตามข้อเสนอของบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่ปรึกษา มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรี และพบยังมีการแก้ tor จนสุดท้ายบริษัทวงศ์สยาม ได้รับการประมูล จึงกล่าวหาว่าการดำเนินการมาตั้งแต่ต้นนั้นมีธงที่จะให้บริษัทวงศ์สยามได้รับการประมูล และในที่สุดบริษัทอีสต์วอเตอร์ได้ส่งฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะได้รับการประมูลในตอนแรกและยกเลิกไป ดังนั้นหากปัญหา นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบและเมื่อฟังการตอบของรัฐมนตรีแล้วไม่น่าเชื่อถือ แม้จะบอกว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญาก็ตาม

ส่วนข้อกล่าวหาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าปล่อยให้มีปัญหายาเสพติดขยายตัวขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งในวงวิจัยระบุว่าจะต้องจับตาตั้งแต่เด็ก 10 ขวบ และ ปี 2563 ใทยเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในเรื่องของปัญหายาเสพติด และปี 65 มีนักโทษยาเสพติดถึง 81% และวันนี้อย่าเสพติดราคาถูก หาได้ง่าย ดังนั้นพลเอกประวิตร จะต้องรับผิดชอบ รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะพลเอกประวิตร ถือว่าเป็นผู้มีบารมี จึงอยากใช้บารมีในการสั่งปราบยาเสพติดให้หน่อย และวันนี้พวกตนไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือผิด ที่ยอมผ่านกฎหมายยาเสพติดให้ แก้โทษให้ผู้ครอบครองยาเสพติด

ขณะที่ข้อกล่าวหาของพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประเด็นทุจริตประปาส่วนภูมิภาค จ.ปทุมธานี ที่มีบริษัทเอกชน เช่าและทำประปาสัมปทานมาหลายปี เมื่อหมดสัญญา ก็มี 2 ทาง คือ เปิดให้เอกชน หรือเจ้าเดิม มารับสัมปทาน หรือให้การประปา ทำเอง

ทั้งนี้ จากผลการศึกษา การประปาทำเองดีกว่า ไม่ต้องจ้างเอกชน จนเป็นที่มาของการเสนอเรื่องไปยังบอร์ดบริหาร และส่งมายังรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบที่ให้การประปาทำเอง ซึ่งในครั้งนี้ เอกชนขอสู้ด้วยการทำกระบวนการ เพื่อเปลี่ยนแปลงมติบอร์ด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ที่จะให้เอกชนทำต่อ ทำให้เชื่อได้ว่า อาจเป็นการทุจริต มีผลประโยชน์ทับซ้อนไม่น้อยกว่ากรณีท่อส่งน้ำอีอีซีของบริษัทอีสวอเตอร์ ซึ่งการที่พลเอกอนุพงษ์ ลุกขึ้นชี้แจงอย่างผิดความคาดหมาย ที่ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เอกชนทำนั้น ทำให้เห็นว่า การอภิปรายครั้งนี้สามารถยับยั้งบางเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นจนทำให้รัฐมนตรีคิดได้ หากไม่ทักท้วง ก็อาจจะเซ็นเอกสารให้ภาคเอกชนทำไปแล้ว ก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]