“สมศักดิ์” ควง “อนุชา” วิดีโอคอลเปิดงานไกล่เกลี่ยชัยนาท

21 ก.ค.- รมว.ยุติธรรมฟิตเปิดวันเดียว 4 งานรวด พยาบาลได้ปลดล็อกหลังค้ำประกันเพื่อนกู้ 2.4 ล้านแล้วชิ่ง สาวบุรีรัมย์ได้ต่อชีวิต กยศ.ให้ผ่อนอีก 16 ปีงวดละ 570 บาท ตำรวจกาฬสินธุ์เฮได้ลดดอกเบี้ย 1.3 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 21 ก.ค. เวลา 09.30 น. ที่สุวรรณาริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท จ.ชัยนาท มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนและยุติธรรมพบประชาชน จ.ชัยนาท มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากรัฐสภา และมีนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่าวันนี้ตนกับนายอนุชาอยู่ที่รัฐสภา เนื่องจากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตนและนายอนุชาต้องอยู่ที่สภา เพราะเราทั้งสองเป็น ส.ส.อยู่ด้วย ต้องรอดูว่าฝ่ายค้านอภิปรายอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ จะได้สนับสนุนข้อมูลในการชี้แจง ตนต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ไม่สามารถไปยังพื้นที่ได้ ที่ผ่านมาตนไปทุกพื้นที่แต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษ วันนี้เราได้เชิญลูกหนี้เข้าร่วมงาน 5,791 คน มูลค่า 313 ล้านบาท หากไกล่เกลี่ยได้ก็จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้เรายังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 934 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน และสำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่งทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่พลาดงานครั้งนี้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนกับการมาร่วมงาน


นายสมศักดิ์ กล่าวว่าอยากให้ทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ความตั้งใจของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือประชาชน และงานต่างๆ ของกระทรวงยุติธรรม เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้มากนัก เรามีกองทุนยุติธรรมที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งการให้คำปรึกษากฎหมาย การช่วยเหลือค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการดำเนินคดีและขึ้นศาล และยังมีการมอบเงินเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา กฎหมาย JSOC ที่ป้องกันการทำกระทำผิดซ้ำคดีทางเพศและใช้ความรุนแรง การปลดล็อกกระท่อม รวมทั้งการปรับปรุงประมวลกฎหมายยาเสพติดให้ทันสมัยมากขึ้น สิ่งต่างๆเราเหล่านนี้ตนอยากเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงพัฒนาการตรงนี้

ด้าน นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีดำเนินการเรื่องไกล่เกลี่ยหนี้สินมานานและเป็นนโยบายหลัก เพื่อคลายทุกข์ให้กับประชาชนในภาวะวิกฤต ตนเป็นตัวแทนพี่น้องชาวชัยนาท ดีใจแทนทุกคน ที่มีการจัดงานไกล่เกลี่ย สิ่งนี้ดีมากๆ ที่ชาวชัยนาทจะได้มีโอกาสไกล่เกลี่ย ประนอมหนี้ ทำให้ชาวชัยนาทได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความหวัง ดำเนินธุรกิจ ธุรกรรม ตนคิดว่าเป็นนโยบายที่ดีขนายกฯ และเป็นโครงการที่ดีของกระทรวงยุติธรรม ดีมากๆ สำหรับประชาชนทั่วประเทศ การแก้หนี้เป็นอานิสงส์ ปลดทุกข์ ทำให้พี่น้องลืมตาอ้าปากได้ในอนาคต และชีวิตมีความสุขมากขึ้น

จากนั้นนายรังสรรค์ ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วย รายแรกเป็นหนี้ก่อนฟ้อง กู้เงินจากธนาคารออมสิน 93,000 บาท ส่งไปแล้วเหลือเงินต้น 25,135 บาท ดอกเบี้ย 26,696 บาท รวมเป็น 51,831 บาท ผลการเจรจาธนาคารลดให้ 45.59% เป็นเงิน 23,631 บาท คงเหลือ 28,200 บาท อีกรายเป็นหนี้หลังฟ้องธนาคารออมสิน เป็นพยาบาลค้ำประกันให้เพื่อนพยาบาลที่ถูกให้ออกจากราชการ มีวงเงินกู้ 2,400,000 บาท ผิดชำระหนี้ทำให้มีค่าปรับ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมศาลรวมเป็น 3,400,448 บาท โดยผู้ค้ำประกันขอชำระแทนผู้กู้บางส่วนเป็นเงิน 500,000 บาท ทางธนาคารนำเสนอคณะกรรมการพิจารณา และให้ชะลอการดำเนินคดี ปลดภาระการค้ำประกันในหนี้ส่วนที่เหลือ


จากนั้นเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ได้วิดีโอคอนเฟอเร็นซ์จากรัฐสภา ไปยัง มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์  จ.บุรีรัมย์ เพื่อเปิดงานงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน จ.บุรีรัมย์ โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายผู้เข้าไกล่เกลี่ย 8,964 ราย มูลค่าหนี้ 725 ล้านบาท จากนั้นว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ได้ร่วมการไกล่เกลี่ย โดยหญิงอาชีพค้าขายเป็นหนี้ กยศ.มาแล้ว 15 ปี วงเงินกู้ 171,228 บาท ชำระไปแล้ว 55,070 บาท ยอดปัจจุบันรวมดอกเบี้ย 116,158 บาท ผลเจรจาได้รับส่วนลด 15,964 บาท เหลือ 100,964 บาท ให้ผ่อนอีก 16 ปีงวดละ 570 บาท อีกรายเป็นข้าราชการมียอดหนี้ตามคำพิพากษา 1,299,583 บาท ได้ลดดอกเบี้ย 231,520 บาท คงเหลือ 1,066,404 บาท ขอผ่อนเดือนละ 13,600 บาท

ต่อมาเวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากรัฐสภา ไปยังมหาวิทยาลัย กาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเปิดงานงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน จ.กาฬสินธุ์ โดยมีเป้าหมายผู้เข้าไกล่เกลี่ย 7,552 ราย มูลค่าหนี้ 685 ล้านบาท โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยนายทรงพล และนายเรืองศักดิ์ ได้ร่วมไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง โดยรายแรก เป็นข้าราชการตำรวจ กู้เงินสินเชื่อสวัสดิการ ธนาคารออมสิน รวมเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีและค่าปรับเป็นเงิน 3,164,166 บาท ได้ลดดอกเบี้ย 1,382,771 บาทและค่าใช้จ่ายในคดี 30,000 บาท เหลือหนี้ 1,751,678 บาท

อีกรายเป็นหนี้ธนาคารออมสิน 1,142,553 บาท ได้ลดค่างวดจากเดิมที่ส่งเดือนละ 7,500 บาทเหลือ 1,500 บาทจนถึงเดือน ธ.ค.65

กระทั่งเวลา 14.00 น. นายสมศักดิ์ ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากรัฐสภา ไปยัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์ เพื่อเปิดงานงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน จ.สุรินทร์ โดยมีเป้าหมายผู้เข้าร่วมงาน 7,416 ราย มูลค่าหนี้ 635 ล้านบาท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว รายละเอียดจากแถลงอย่างเป็นทางการและยังระบุข้อความว่า “นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความให้การให้สัมภาษณ์ของนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข

รัฐสภา 3 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน มีมติโหวตหนุนนั่งนายกฯ ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข หัวเราะ “เพื่อไทย” บอกเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พาประเทศไม่รอด เป็นเหตุยื่นยุบสภา ชี้ให้ไปดูคำแถลงพรรคส้ม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าสภาเมื่อเวลา 09.45 น. โดยผู้สื่อข่าว พยายามถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนได้แถลงข่าวสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ฝั่งพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา แต่นายอนุทิน ไม่ได้ตอบคำถาม บอกแค่ว่าขอไปประชุมก่อน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ดีใจหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบว่า “ก็ดีใจสิ และรู้สึกขอบคุณมากๆ ด้วย” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขึ้นไปประชุมกับพรรคภูมิใจไทยก่อน เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอ้างเหตุผลการยุบสภาว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะนำพาประเทศไปไม่รอด นายอนุทินหัวเราะ ก่อนตอบว่า ดูร่างที่พรรคประชาชนได้แถลงมันมีคำตอบอยู่ในนั้น เมื่อถามว่าพร้อมเซ็นตามข้อตกลงของพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมสิครับ ยอมรับได้ทุกข้อ”.-สำนักข่าวไทย

มติพรรคประชาชน โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

รัฐสภา 3 ก.ย.-มติพรรคประชาชน แถลงยกมือโหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข 4 ข้อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงว่า ในช่วงระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและจากกระแสข่าวเมื่อวานในเรื่องของการยุบสภา ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือมีการรับรองอย่างเป็นทางการจากฝั่งพรรคเพื่อไทยว่ามีการทูลเกล้าฯ เสนอยุบสภาแล้วหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน วันนี้มาพร้อมผู้บริหารพรรคบางส่วนที่ได้มีการประชุมกันเมื่อเช้านี้ถึงข้อสรุปว่าภาคประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน นับตั้งแต่กรณีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซ็น พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่าทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจ กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ให้เรามีรัฐบาลใหม่เพื่อให้มีความชอบธรรมมีเสถียรภาพและมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชนทางด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคง แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลผู้มีอำนาจในการยุบสภา กลับยังไม่ให้ความชัดเจนและยังไม่ตอบสนองและมีความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด โดยไม่สำนึกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นผลจากตำแหน่ง พรรคประชาชนจึงเห็นว่าหากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอดสองปีที่ผ่านมา รวมทั้งทางเสี่ยงเปิดทางให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งขัดต่อหลักที่พรรคประชาชนยึดถือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 5 วันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของสองพรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชนและกลไกควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรักษาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างรอบคอบแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่าหากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภาคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน […]

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]