กทม. 17 ก.ค.- “กลุ่ม 16” กินมื้อเย็น ถกทิศทางศึกซักฟอก ย้ำโหวตทิศทางเดียวกัน ยันยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ระบุใครโหวตสวนต้องมีเหตุผล ด้าน “พีระวิทย์” ยันพรรคเล็กไม่ย้ายซบ “ร.อ.ธรรมนัส” ถ้าจะไปต้องไปทั้ง 16 เสียง
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 และนายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทรักธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลุ่ม 16 เดินทางมาที่ร้านอาหารเพลิน ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อร่วมรับประทานอาหารและหารือกันถึงทิศทางในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 19-22 ก.ค. ว่า กลุ่ม 16 มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ทั้งหมดจะโหวตให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็จะต้องรอฟังการอภิปรายในสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหาในประเด็นที่เราทราบกันว่าค่อนข้างจัดหนัก และทางกลุ่มได้กำชับสมาชิกว่าขอให้อยู่ในที่ประชุมตลอด เพื่อฟังประเด็นสำคัญ เพราะฝ่ายค้านอ้างว่ามีประเด็นที่สามารถทำให้รัฐบาลไม่สามารถตอบได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่ากลุ่ม 16 จะยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นจะต้องฟังข้อมูลของฝ่ายค้านว่าที่กล่าวหานั้นทำให้ประเทศชาติเสียหายหรือไม่ หรือส่อไปในแนวทางทุจริตหรือไม่
ทั้งนี้ หากพบว่ามีประเด็นที่ส่อว่ารัฐบาลทุจริต นายพิเชษฐ กล่าวว่า แน่นอนเราจะใช้เอกสิทธิ์ตรงนี่ เพราะกลุ่ม 16 ตั้งขึ้นรักษาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ หากรัฐบาลหรือรัฐมนตรีคนไหนส่อไปในทางทุจริตและไม่สามารถชี้แจงได้ ทางกลุ่มยืนยันว่าจะไม่โหวตให้ พร้อมย้ำว่าไม่ได้ตั้งกลุ่มมา เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์
เมื่อถามว่า จากที่พิจารณามีรัฐมนตรีคนไหนน่าห่วงหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ตอนนี้รอฟังข้อมูลจากฝ่ายค้าน แต่เท่าที่ดูไม่น่าห่วงมาก และไม่ได้เป็นอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา แต่ต้องฟังทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้ามีรัฐมนตรีคนไหนทำให้ประเทศเสียหายชัดเจนก็คงไม่สามารถไว้วางใจได้
ทั้งนี้ ในส่วนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น หากนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ เราก็ไม่สามารถยกมือให้ได้ การไม่ถอนตัวก็เหมือนถอนตัว ก็จบ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้ทำให้ประเทศเสียหาย เราก็ต้องนำมาพิจารณาว่าจะลงเรือลำเดียวกันลำบาก ก็ต้องมีการหารือกันว่าอาจมีความจำเป็นจะต้องถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่ทั้งนี้จะต้องตัดสินใจหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนหากมีบางคนในกลุ่ม16 โหวตให้ฝ่ายค้านจะเคารพในการตัดสินใจหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวยืนยันว่าทุกคนมีเอกสิทธิ์ ซึ่งการเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องลงมติอย่างไร แต่การจะโหวตสวนก็ต้องมีเหตุผล
ด้านนายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวว่า การเข้าพบครั้งนี้ เป็นการที่ พล.อ.ประวิตร ได้เชิญพรรคเล็ก และไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าพรรคเล็กต้องการต่อรองผลประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ย้ำว่ากลุ่ม 16 ไม่มีรัฐมนตรี จึงไม่มีสัญญาต่างตอบแทนซึ่งกันและกันกับใคร ไม่เหมือนกับพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดใหญ่ ที่แต่ละพรรคมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ทำให้ต้องมีการโหวตต่างตอบแทนกัน ยืนยันว่ากลุ่ม 16 ตั้งใจรอดูการอภิปรายของฝ่ายค้านและการชี้แจงของรัฐมนตรี ย้ำว่าการโหวตจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายพีระวิทย์ กล่าวต่อว่า ตนได้พบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ แต่ได้นั่งแยกห้องกัน ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ขอให้ช่วยโหวตไปในทิศทางเดียวกัน แม้รัฐมนตรีแต่ละคนจะมีคะแนนออกมาไม่เท่ากัน แต่ก็พยายามอย่าให้คะแนนห่างกันเยอะ และพรรคเล็กได้สอบถามถึงทิศทางของพรรคเศรษฐกิจไทยในการลงคะแนน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้ามา กราบลาแล้ว และการลงคะแนนให้เป็นไปในทิศทางของพรรคเศรษฐกิจไทย ยืนยันว่าพรรคเล็กไม่ได้ย้ายไปอยู่กับพรรคเศรษฐกิจไทย และถ้าจะไป ก็จะไปทั้ง 16 เสียง แต่ถ้าไม่ไปก็คือไม่ไปทั้งหมด แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้นัดหารือกับกลุ่ม 16 ในวันที่ 19 ก.ค.เพื่อพูดคุยกำหนดท่าทีร่วมกันด้วย.-สำนักข่าวไทย