ทำเนียบรัฐบาล 23 พ.ค.-นายกฯ เผย เศรษฐกิจกำลังฟื้นต้ว ปชช.ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งออกโต ขณะนักท่องเที่ยวแค่ไตรมาสแรกเข้ามาแล้ว 2 พันเปอร์เซ็นต์ รับห่วงเงินเฟ้อ พยายามช่วยเต็มที่ ลดเดือดร้อน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ไม่ถึงกับชะลอตัว เมื่อเทียบกับช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 และต้องรักษาสมดุลนี้ให้ได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ทำให้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น พยายามรักษาระดับเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 5 % ทั้งนี้ ไทยเป็นกลุ่มประเทศที่เงินเฟ้อต่ำสุดในโลก และดูแลกำกับราคาสินค้าให้ได้มากที่สุด
“ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ทางธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีเงินลงทุนไหลเข้ามาประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงในภาคธุรกิจช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 จึงเป็นเหตุผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งผ่อนคลายมาตรการโควิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงช่วงไฮซีซั่นช่วงปลายปี” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 65 ขยายตัว 2.2% มาจากการใช้จ่ายประชาชนเพิ่มขึ้น 3.9% ซึ่งมาจากโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล การส่งออกโตขึ้น 12% มีนักท่องเที่ยวเข้ามาตั้งแต่ 1 ม.ค.-18 พ.ค.จำนวน 1.02 ล้านคน ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 2,000 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ส่วนปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามา 7 ล้านคน
“ส่วนการลงทุน ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.9% ภาครัฐ อยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มก่อสร้างหลังจากการลงนามในไตรมาส 1 สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อ รัฐบาลมีความเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนเรื่องค่าขนส่งและราคาสินค้า โดยใช้มาตรการการลดภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากร เพื่อช่วยเหลือต้นทุนการขายปลีก รัฐบาลพยายามช่วยเหลือเต็มที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนกำลังซื้อของประชาชน ค่าเงินบาทอ่อนตัว ส่งผลดีต่อการส่งออก ทำให้สินค้าเกษตรมีราคาดีทั้งยาง ปาล์ม ข้าวโพด กำลังซื้อในชนบทยังดีอยู่ ดูจากยอดการสั่งซื้อรถปิ๊กอัพในภาคใต้ ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง.-สำนักข่าวไทย
