กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – “นิพนธ์” เกาะติดสถานการณ์ “พายุฤดูร้อน” กระทบทั่วประเทศ สั่งการ ปภ.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุฯ
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ซึ่งมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ซึ่งในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย.65 ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 21 จังหวัด 58 อำเภอ 137 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,241 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (เชียงรายและตาก) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (ตาก)
นายนิพนธ์ เปิดเผยต่อว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์พายุฤดูร้อนมาตลอด โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์และการช่วยเหลือมาเป็นระยะ และจากการติดตามเหตุการณ์หลายพื้นที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ทำให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือนเสียหาย ตนได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักเรื่องสาธารณภัยดังกล่าว ให้เร่งการช่วยเหลือดูแลทันที โดยประสานงานกับองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดหาอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการกำลังของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครต่างๆ เข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนให้กลับคืนสภาพโดยเร็ว พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เตรียมบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ และแผนเผชิญเหตุ ให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะการแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนทราบทันต่อเหตุการณ์ และขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
“ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งแจ้งเตือน สื่อสารสร้างการรับรู้ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์ได้ทันท่วงที รวมถึงประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อสื่อสาร และขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายนิพนธ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย