รัฐสภา 17 ก.พ.-“ศักดิ์สยาม” ชี้ภูมิใจไทยไม่ใช่ตัวแปรสำคัญความมั่นคงรัฐบาล เชื่อทุกพรรคร่วมมีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพ สานต่อนโยบาย ระบุควรอยู่ครบเทอม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่าช่วงนี้พรรคภูมิใจไทยกำลังเนื้อหอม แต่มองว่าการย้ายพรรคของส.ส.เป็นวิถีทางการเมือง โดยพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานให้ประชาชน พูดแล้วทำ ดังนั้น บุคลาการทางการเมืองไม่ใช่แค่ ส.ส.เท่านั้น เมื่อรับฟังแนวทางของพรรคแล้วว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติได้ ทางพรรคก็เปิดกว้าง รับเข้ามา หากไม่มีข้อจำกัดด้านคุณสมบัติของกฎหมาย จุดเด่นของคนที่จะมาร่วมงานกับพรรคคือพูดแล้วทำ
เมื่อถูกถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีระบุว่ามีวัคซีนเต็มแขน อัดฉีด 20 ล้านโดสให้กับส.ส. นายศักดิ์สยาม หัวเราะและระบุว่า พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย อย่างญัตติการเปิดอภิปรายวันนี้เป็นเรื่องที่ดี เพื่อรับฟังแต่ละฝ่ายว่ามีข้อมูลอย่างไร โดยรัฐบาลและตนพร้อมรับฟัง หากเป็นเรื่องที่ไม่ได้ศึกษาไว้ก็พร้อมนำไปปฎิบัติ ไม่มีประเด็นใด ๆ เชื่อว่าไม่มีกรณีที่พรรคภูมิใจไทยจะดูดส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่มองว่าเป็นวิถีทางการเมือง เพราะหากดูวิวัฒนาการแต่ละพรรคจะเป็นเช่นนี้
“เคยพูดตั้งแต่การเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แล้วว่าตั้งเป้าเป็นพรรคขนาดใหญ่ และเป้าหมายของพรรคการเมืองทุกพรรคต้องการเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะหากมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นโยบายที่ประกาศกับประชาชนมาสู่การปฎิบัติและเป็นรูปธรรมได้จะเป็นเรื่องที่ดี พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่ตัวแปรสำคัญในการรักษาเสถียรภาพรัฐบาล แต่มองว่าทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเดียวกันในการรักษาเสถียรภาพรัฐบาล คิดว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะหากมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและทำงานอย่างต่อเนื่อง การนำนโยบายที่ประกาศกับประชาชนนำไปสู่การปฎิบัติอย่างแท้จริงจะสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม และรัฐบาลควรจะอยู่ครบเทอม” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าร่างสัญญาการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเข้าที่ประชุมครม. ภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม โดยต้องหารือรายละเอียดที่กระทรวงคมนาคมตั้งข้อสงสัยไป ดังนั้น ขอรอดูว่าจะตอบข้อสงสัยได้หรือไม่ โดยฝ่ายปฎิบัติงานจะนัดหารือกัน กระทรวงคมนาคมมีคำถามที่สอบถามไปแล้ว โดยเฉพาะการปฎิบัติตามระเบียบกฎหมายและตามหลักธรรมาภิบาล
“ส่วนการนำเข้าวาระการประชุม จะเป็นวาระหลักหรือวาระจร ขึ้นอยู่กับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับระเบียบกฎหมายและกระทบต่อประชาชนระยะยาว การจะชี้ว่าเรื่องนี้ถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่ ต้องดูที่การเริ่มต้นถึงเหตุการขยายสัมปทานดำเนินการถูกต้องหรือไม่ การตั้งข้อสังเกตุว่าทำไมถึงเร่งรีบเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ผมย้ำมาตลอดว่าการก่อหนี้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายใช่หรือไม่ เพราะหากดำเนินการตามระเบียบแล้ว ใช้ระเบียบตัวไหน ซึ่งทุกอย่างต้องยึดหลักธรรมาภิบาล มีส่วนร่วม ตรวจสอบได้” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในครั้งนี้ พาดพิงถึงประเด็นนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยจะมีข้อมูลชี้แจง ส่วนตนมีข้อมูลตามความเห็นและตามเอกสารที่มี.-สำนักข่าวไทย