“ธรรมนัส” ยอมรับพ่ายเลือกตั้ง ลุยตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ชุมพร 17 ม.ค. – “ร.อ.ธรรมนัส” ยอมรับพ่ายสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เผยจะนำบทเรียนครั้งนี้เป็นการบ้านไปทบทวนหาสาเหตุ ขณะที่ “สาทิตย์” โวเป็นการคืนความเป็นธรรมให้ “ส.ส.ลูกหมี”


ร.อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงยอมรับผลความพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ซึ่งผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของนายชวลิต อาจหาญ หรือ “ทนายแดง” ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนกว่า 32,000 คะแนน โดยได้คะแนนมากกว่าการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี 2562 แต่ยังไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ ยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่ง ชนะทิ้งห่างมากพอสมควร โดยจะนำบทเรียนครั้งนี้เป็นการบ้านการจัดทำยุทธศาสตร์เลือกตั้งซ่อมไปทบทวนว่าเพราะเหตุใด โดยคะแนนเลือกตั้งของผู้สมัครของพรรคไม่เพิ่มไปจากเมื่อปี 2562 และวิเคราะห์ว่า พรรคการเมืองคู่แข่งใช้กลยุทธ์ในการเลือกตั้งหลายอย่าง ขณะที่มีการจับกุมการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินในพื้นที่เขตเลือกตั้งได้ รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ที่ถูกจับฐานกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้งหมดด้วย โดย “ทนายแดง” ได้ไปยื่นร้องต่อ กกต.ชุมพร และตำรวจแล้ว


ด้านนายชวลิต อาจหาญ หรือ “ทนายแดง” กล่าวขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ให้โอกาส พร้อมขอบคุณชาวชุมพรที่ตั้งใจเทคะแนนให้ ซึ่งมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แม้ไม่ชนะการเลือกตั้ง

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร ได้ร่วมแสดงความยินดีกับนายอิสรพงษ์ มากอำไพ และยกมือไหว้ผ่านสื่อฯ ขอบคุณชาวชุมพรที่คืนความเป็นธรรมให้กับอดีต “ส.ส.ลูกหมี” ท่ามกลางแกนนำ หัวคะแนน และชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยถือเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น จึงถือว่าชาวชุมพรได้คืนความเป็นธรรมให้กับอดีต “ส.ส.ลูกหมี” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้อง กปปส. และพี่น้องชาวประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศ

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ Aoodda” ระบุว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนที่ชาวชุมพร เขต 1 และชาวสงขลา เขต 6 มอบให้กับ “อิสรพงษ์ มากอำไพ” และ “สุภาพร กำเนิดผล” พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ได้รับจากผู้สนับสนุนที่หลั่งไหลมาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยความซาบซึ้งใจยิ่ง ในฐานะหัวหน้าพรรค ผมขอยืนยันว่า พรรคจะตั้งใจ ทุ่มเท ทำงานหนัก เพื่อชาวชุมพร ชาวสงขลา พี่น้องชาวใต้ และพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ด้วยอุดมการณ์ จนสุดกำลังความสามารถต่อไป ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจครับ


ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีการรายงานการดูแลความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 พื้นที่ โดยมีเหตุเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด 9 คดี แบ่งเป็น จ.ชุมพร 8 คดี คือ ถ่ายภาพบัตรเลือกตั้ง 5 คดี ทำลายป้ายหาเสียง 2 คดี (จับกุมได้ 1 คดี, อยู่ระหว่างสอบสวน 1 คดี) เหตุยิงรถหาเสียงผู้สมัครฯ 1 คดี (จับกุมแล้ว) ส่วนในพื้นที่ จ.สงขลา มี 1 คดี คือ ร้องเรียนเรื่องการหาเสียง 1 คดี (อยู่ระหว่าง กกต.กลาง ตรวจสอบ) โดยสรุปผลการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้