“เพชร กรุณพล” ลุยหาเสียง ชุมชนย่านหลักสี่-จตุจักร

หลักสี่ 1 ม.ค.- “เพชร กรุณพล” ลุยหาเสียง ชุมชนย่านหลักสี่-จตุจักร ปลื้มกระแสตอบรับดี มั่นใจชนะเลือกตั้งแน่ ไม่กังวลคู่แข่งช่ำชองการเมือง ยันไม่ตัดคะแนนเพื่อไทย ชี้ฐานะแฟนคลับใคร ฐานแฟนคลับมัน


นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร ในนามพรรคก้าวไกล ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเสมียนนารี เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนจะลงพื้นที่หาเสียงและพบปะประชาชนในซอยแจ้งวัฒนะ 5 บริเวณเคหะชุมชนหลักสี่ และชุมชนใกล้เคียง พร้อมกล่าวถึงการลงพื้นที่ที่ผ่านมา พบว่าปัญหาส่วนใหญ่ คือ ปัญหาที่อยู่อาศัย และรายได้ของประชากร โดยเฉพาะหลังจากช่วงโควิด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะนำปัญหาเหล่านี้ ไปประกอบกับนโยบายของพรรคและนโยบายของตนเอง รวมถึงผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาระดับโครงสร้าง ส่วนแผนหาเสียงหลังจากนี้จะพยายามลงพื้นที่ให้ประชาชนรู้จัก รับรู้ถึงการแก้ปัญหาให้กับคนที่พื้นที่ โดยไม่ได้เน้นที่เป้าหมายใดเป็นพิเศษแต่จะเป็นทุกคน เพราะแต่ละช่วงวัยหรือแต่ละพื้นที่มีหลากหลายปัญหา หรือแม้แต่บางพื้นที่มีปัญหาเดียวกันการแก้ปัญหาก็ต้องเป็นคนละแบบ และตั้งใจจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดไม่ว่า ผลจะเป็นอย่างไรก็ยินดี

นายกรุณพล ยืนยัน มั่นใจเต็ม 100% สำหรับการสู้ศึกครั้งนี้ ไม่ได้คิดจะมาแย่งฐานเสียงใคร เพราะพรรคก้าวไกลก็มีฐานเสียงไม่น้อยกว่าพรรคการเมืองอื่น และปัจจุบันก็มีกลุ่มคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดใหม่ รวมทั้งกลุ่มคนที่ผิดหวังจากการเมืองเดิมๆพร้อมจะสลับมาเลือกพรรคก้าวไกล ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะลงสนามการเลือกตั้งเพื่อจะเป็นตัวแทนของอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่ใช่ว่าประชาธิปไตยจะมีแค่ 2 พรรคการเมือง ให้เลือกซ้ายหรือขวาเท่านั้น แต่พรรคก้าวไกลจะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีการขับเคลื่อนนโยบายที่แตกต่างกัน ก็จะเหมาะสำหรับคนที่อยากได้สิ่งใหม่ๆ


เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เนื่องจากคู่แข่งในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ มีแต่ผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง ในขณะที่ตนเองเป็นนักแสดงอยู่ในวงการบันเทิง นายกรุณพล ยืนยันว่า ไม่รู้สึกกังวล โดยเปรียบตัวเองเหมือนคนดูนักฟุตบอลกำลังเตะบอลกันในสนาม ซึ่งคนดูจะมองจากมุมสูง ก็จะเห็นว่านักฟุตบอลเล่นกันอย่างไร อีกทั้งตนเองก็มีผู้ช่วยคือพรรคก้าวไกลทั้งพรรค ซึ่งมีความแข็งแกร่งในด้านการเมืองไม่น้อยกว่าพรรคการเมืองอื่น ทำให้เราเห็นภาพในมุมกว้างชัดเจน และการลงพื้นที่ก็เป็นการมองให้เห็นภาพที่ลึกและชัดเจนกว่า เพื่อนำปัญหาไปวิเคราะห์และแก้ไขในระดับประเทศ

นายกรุณพล ยอมรับว่า การเป็นนักแสดงมีส่วนช่วยในการลงพื้นที่อย่างมากเนื่องจากประชาชนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้ว ส่วนนักการเมืองนั้นมาแล้วก็ไป ซึ่งการเป็นนักแสดงของตนเอง เมื่อเราเข้าไปถามปัญหากับประชาชน ประชาชนก็กล้าจะเปิดใจพูดคุย และตนเองก็ไม่ได้มาหาผลประโยชน์ ประชาชนสามารถไว้ใจตนเองได้ อยากแก้ปัญหาให้ประเทศจริงๆ ส่วนผู้สมัครคู่แข่งจากพรรคอื่น ถือว่า เป็นนักการเมืองอาชีพและลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ตนเองเป็นนักแสดงต้องยอมรับว่าภาษาทางการเมืองต่ำมากหากเปรียบเทียบกับคนอื่น ถือว่ายังเป็นมือใหม่ แต่ต้องค่อยๆ เรียนรู้จากรุ่นพี่ ในวงการการเมืองต่อไป

ส่วนประเด็นที่ถูกมองว่าพรรคก้าวไกลส่งผู้สมัครลงตัดคะแนนกันเองกับพรรคเพื่อไทยนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่การตัดคะแนนใคร แต่มองว่าเป็นฐานเสียงของแต่ละพรรค ซึ่งการเลือกตั้งทุกการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตย คือ การแข่งขันและมองว่าแต่ละพรรคต้องส่งผู้สมัครลง เพื่อให้ประชาชนได้เลือกคนที่เหมาะสมที่สุด


“หลายคนบอกว่าพรรคประชาธิปไตยควรจะร่วมมือกันสู้กับฝ่ายเผด็จการ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าประชาธิปไตยคือความหลากหลาย ไม่ใช่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ที่สำคัญก็คือการที่เราลงเลือกตั้งไม่ใช่การตัดคะแนนพรรคเพื่อไทย เพราะฐานเสียงของเราเองก็มีไม่ใช่น้อย ไม่ได้ด้อยกว่าพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการที่มีคนบอกว่าเป็นการตัดคะแนนกัน นั่นหมายความว่า คุณต้องการจะชนะฝั่งอื่นด้วยการยืมมือของคนที่ชื่นชอบนโยบายของพรรคเราไปช่วย ฉะนั้น คำว่า การตัดคะแนนกัน มันไม่เกิดขึ้นจริง ฐานแฟนคลับใครฐานแฟนคลับมัน” นายกรุณพล กล่าว

นายกรุณพล ย้ำว่า มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้อย่างแน่นอน และมั่นใจตั้งแต่ก่อนลงสมัครแล้ว เพราะได้คุยกับทางพรรคแล้วว่าเราเห็นการเมืองเก่าๆ คนหลายคนเบื่อการเมืองที่ขับเคลื่อนได้ช้า เพราะปัญหาหมักหมมมานาน ดังนั้นจึงตัดสินใจลงสมัครและมั่นใจว่า จะชนะอย่างแน่นอน จากการลงพื้นที่ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี.-สำนักข่าไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]