รัฐสภา 15ธ.ค.-“นพ.ตุลย์” ร้องส.ส.-ส.ว.สอบยธ.อภัยโทษจำนำข้าวมิชอบ ชี้พิรุธรับโทษยังไม่ถึง 1 ใน 3 แต่เกือบพ้นโทษ “สมชาย” เด้งรับเสนอแก้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ให้ศาลชี้ขาดลดโทษ ก่อนเสนออภัยโทษ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรียกร้องให้ตรวจสอบการขอพระราชทานอภัยโทษผู้ต้องโทษจำคุกคดีทุจริตคอร์รัปชั่น โดยตั้งกรรมาธิการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าตามที่มีประกาศอภัยโทษเมื่อวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ทูลเกล้าฯ เสนอลดโทษผู้ต้องขัง
“มีนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกรายละ 36-50 ปี ได้รับการอภัยโทษด้วย ทั้งที่ผ่านการจำคุกมาเพียง 2-4 ปี แต่กลับได้รับการอภัยโทษในวาระสำคัญต่าง ๆ จนเหลือเวลาต้องโทษ 6-10 ปี ซึ่งนักโทษบางรายมีโอกาสได้รับการพักโทษในปี 2566” นพ.ตุลย์ กล่าว
นพ.ตุลย์ ตั้งข้อสงสัยต่อเกณฑ์การเสนอรายชื่อเพื่อขอรับการอภัยโทษ ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการราชทัณฑ์ รับผิดชอบเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการอภัยโทษ ซึ่งผู้ที่จะได้รับการอภัยโทษต้องผ่านการรับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของระยะเวลารับโทษทั้งหมด แต่การเสนออภัยโทษครั้งนี้ นักโทษมีระยะเวลารับโทษ 36 – 48 ปี แต่กลับถูกจำคุกเพียง 3 – 4 ปี ก็ได้รับการลดโทษแล้ว จึงน่าจะขัดต่อกฎหมาย จึงเรียกร้องให้ส.ส.และส.ว.ร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ยืนยันว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือต่อกรรมาธิการฯ ซึ่งในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ กรรมาธิการฯ ได้เชิญปลัดกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาชี้แจงกระบวนการลดโทษดังกล่าวต่อกรรมาธิการแล้ว พร้อมเสนอแนวคิดให้แก้ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ เพื่อปรับโครงสร้างคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มีหน้าที่พิจารณาเสนอพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ให้มีความหลากหลายจากภาคส่วนต่าง ๆ มากขึ้น และให้นักโทษคดีทุจริตร้ายแรงจะต้องรับโทษไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ก่อน จึงจะได้รับการพิจารณาลดโทษ และจะต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการลดโทษก่อนการอภัยโทษด้วย.-สำนักข่าวไทย