“นพ.ตุลย์” มอบกว่า 5 หมื่นรายชื่อหนุนแพทยสภา ปมชั้น 14

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – “นพ.ตุลย์” นำรายชื่อกว่า 52,000 คน สนับสนุนแพทยสภาลงโทษ 3 แพทย์ ตามมติเดิม เรียกร้องกรรมการแพทยสภาทุกคนเข้าร่วมประชุม 12 มิ.ย. เชื่อมั่นกรรมการแพทยสภาจะฝ่าฟันแรงกดดันได้


นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ได้นำรายชื่อของแพทย์และประชาชนจำนวนกว่า 52,000 คน มอบให้ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา ประกอบด้วยรายชื่อคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ รุ่น 16,17, 22, 23, 26, 27, 28, 29, 32, 34, 35 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชรุ่น 83,87,89,68,71 คณะแพทยศาสตร์รามาฯ รุ่น 14,21,24,30,39 อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 72 คน ศิษย์เก่าจุฬารุ่นที่ 14 และรายชื่อภาคประชาชน รวมกว่า 50,000 รายชื่อ ที่สนับสนุนและให้กำลังใจคณะกรรมการแพทยสภา ก่อนที่จะมีการประชุมเพื่อลงมติ ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ พร้อมเสนอ 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ให้คณะกรรมการแพทยสภาทุกท่านเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ไม่มอบหมายให้ผู้อื่นเข้าประชุม 2.ขอให้ไม่ลงมติ “งดออกเสียง” และ 3.ให้ลงมติลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน ตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม

นายแพทย์ตุลย์ กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นในกรรมการแพทยสภาที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 35 คน และกรรมการโดยตำแหน่ง โดยเฉพาะคณะแพทย์ทั้ง 28 แห่ง จะสามารถฝ่าฟันกระแสกดดันได้อย่างแน่นอน เพราะเบื้องหลังคนเหล่านี้มีทั้งอาจารย์แพทย์ นิสิตแพทย์ ส่วนกรรมการโดยตำแหน่งที่เป็นข้าราชการประจำ เข้าใจว่าถูกผู้บังคับบัญชากดดันมา แต่เชื่อว่าในแพทยสภาไม่มีการเมือง


ส่วนตัวขออนุญาตสื่อถึงกรรมการแพทยสภา ที่เป็นข้าราชการประจำว่า แม้เป็นข้าราชการที่มีผู้บังคับบัญชา แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือการเป็นแพทย์ ท่านได้รับอำนาจจากพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรมให้มาเป็นกรรมการแพทยสภา แม้ตามปกติท่านจะบอกว่างานเยอะ และมักจะมอบหมายให้ผู้แทนเข้าร่วมประชุม แต่ตนขอเรียกร้องให้ท่านเข้าร่วมประชุมในวันที่ 12 มิถุนายนด้วยตัวเอง ประชาชนทั้งประเทศกำลังจับตามองการประชุมครั้งสำคัญของแพทยสภาครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้ท่านมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง เพราะท่านรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วหลายวัน สามารถเลื่อนงานต่าง ๆ เพื่อมาประชุม และยืนยันมติแพทย์ที่สภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอให้กรรมการแพทยสภาทุกท่าน ใช้ตำแหน่งอันทรงเกียรติของท่านมาเข้าร่วมประชุมด้วย

นายแพทย์ตุลย์ ระบุเพิ่มเติมว่า จากที่มีการวิเคราะห์การวีโต้ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่ใช้คำพูดว่า “แพทย์ดูแลผู้ป่วยทำไมต้องมีความผิด” ขอเรียนว่า การตรวจรักษาผู้ป่วยรายนี้ รวมถึงการให้ความเห็นว่าป่วยวิกฤต หากไม่มีหลักฐานว่าป่วยวิกฤตจริง ความเห็นออกมาก็เป็นเท็จ และในการลงความเห็นว่าเป็นเท็จมีเกณฑ์ในการลงโทษพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพขั้นต่ำอยู่ที่ 6 เดือน ถ้าหมอท่านใดออกใบรับรองแพทย์เท็จ และถูกจับได้ ก็ต้องถูกลงโทษเช่นเดียวกัน และไม่ว่าแพทยสภาจะถูกกดอย่างไร ในวันที่ 12 มิ.ย. ท่านก็ต้องทำหน้าที่ของท่าน วันนี้ตนเพียงมาให้กำลังใจ ไม่ได้ไปเบี่ยงเบนมติ เชื่อว่าประชาชนที่รอฟังมติคงจะได้เห็นผล ก็ตัดสินใจเอาว่าแพทยสภาทำหน้าที่เต็มที่แล้วหรือยัง

ทั้งนี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จะร่วมสังเกตการณ์การประชุมด้วย. -420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา

ก.แรงงาน 8 ก.ค. – “พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา ลดผลกระทบภาคธุรกิจ-นายจ้างชายแดน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินมาตรการผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน วันนี้ (8 กรกฎาคม 2568) จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดน (Border Pass) ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุ ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุด ดังนี้ ผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการทำงานได้อีก 6 เดือน หรือจนกว่าด่านจะเปิด รวมทั้งยกเว้นโทษเปรียบเทียบปรับ สำหรับกรณีอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด และ 5. เมื่อสถานการณ์ชายแดนกลับสู่ภาวะปกติ ให้คนต่างด้าว อยู่ต่อได้อีก 7 วัน เพื่อเตรียมตัวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ แนวทางทั้ง […]

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]

มติสภาฯ 253 ต่อ 67 เสียง ถอนร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ

ฐสภา 9 ก.ค. – สภาฯ ลงมติ ถอนร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ตาม ครม. เสนอ เจอฝ่ายค้านถามเหตุผล เป็นเพราะกลัวเสียงไม่พอหรือ “เท้ง” จี้รับปากจะไม่นำร่างกลับมาอีก ด้าน “จุลพันธ์” แจง เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตอบไม่ได้นำกลับมาพิจารณาอีกหรือไม่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เป็นการพิจารณาตามระเบียบวาระ คือร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่า ครม.ได้มีหนังสือมายังสภาฯ ขอถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ออกจากระเบียบวาระการประชุม ซึ่งตามข้อบังคับที่ 61 กำหนดว่าการถอนร่าง พ.ร.บ.ที่ประธานสั่งบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมแล้ว จะกระทำได้เมื่อได้รับการยินยอมจากที่ประชุม ดังนั้นตนขอถามสมาชิกว่าเห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ทำให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า ตนอยากทราบเหตุผลที่แท้จริงที่ครม. ขอถอนร่างนี้ออกจากการพิจารณาของสภาฯ ตนทราบดีว่าวันนี้อย่างไรรัฐบาลก็ถือเสียงข้างมากดังนั้นไม่ว่าพวกตนจะลงมติอย่างไร ครม.ก็สามารถที่จะถอนร่างนี้ออกจากการพิจารณาของสภาฯได้อยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าการถอนร่างในวันนี้เป็นการถอนร่างที่รัฐบาลได้เล็งเห็นแล้วว่ากฎหมายฉบับนี้มีปัญหา อาจจะถอนออกไปเพื่อที่จะกลับไปศึกษาอย่างรอบคอบตามข้อทักท้วงของภาคประชาสังคมรวมถึงภาคส่วนอื่นๆก่อน […]