“ชูศักดิ์” ยอมรับ รธน.ใหม่อาจคลอดไม่ทันรัฐบาลชุดนี้

รัฐสภา 21 ก.ค.-“ชูศักดิ์” ยอมรับ รธน.ใหม่อาจคลอดไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ แจงยังรอคำวินิจฉัยศาล รธน.ก่อน หวังได้ตั้ง สสร.ทันก่อนรัฐบาลหมดวาระ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา ถึงแนวทางความชัดเจน และกรอบเวลาของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยชี้แจงว่า ปัญหาใหญ่ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นเพราะการไปต่อไม่ได้ เพราะความขัดแย้งแนวคิดว่า จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างไร และทำประชามติกี่ครั้ง ที่ยังสับสนระหว่าง 2 หรือ 3 ครั้ง ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ที่ค้ำคอไว้อยู่ ดังนั้น รัฐบาลเศรษฐา จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง จนมีข้อสรุปให้ทำประชามติ 3 ครั้ง และต้องแก้ไขกฎหมายประชามติให้ใช้แบบเสียงข้างมากชั้นเดียว พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน จึงมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เหตุใดถึงไม่มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐมนตรีนั้น นายชูศักดิ์ ชี้แจงว่า เนื่องจาก ยังไม่มีข้อยุติจำนวนครั้งการประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐสภาที่ผ่านมา สั่งไม่บรรจุเข้าวาระการประชุม เพราะความไม่ชัดเจน จนมีการไปพิจารณาคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่พบว่า เสียงข้างมากให้จัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จึงกลับมติให้บรรจุได้ แต่ก็ยังมีหนังสือท้วงติงจากวุฒิสภา ซึ่งในมุมคณะรัฐมนตรี มองว่า การเสนอกฎหมายใหม่ ๆ จะต้องมีความแน่นอน และชัดเจน ถ้าไม่ผ่าน หรือมีปัญหาในทางกฎหมาย ก็จะเกิดปัญหาอีกครั้ง ซึ่งตนเองเป็นผู้เสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ให้เสนอเอง และให้เสนอในนามพรรคการเมืองแทน เพราะความตีความประชามติยังไม่สิ้นสุด กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานจากผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีคำวินิจฉัย จึงทำให้เรื่องคาราคาซัง

นายชูศักดิ์ ยังยืนยันว่า รัฐบาลยังมีความแน่วแน่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เกิดขึ้นให้ได้ แต่ก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่ ซึ่งตนเองก็รับทราบในปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยเฉพาะการถ่วงดุลอำนาจ และที่มา สว.เพียงแต่ว่า เงื่อนไขต่าง ๆ ยังมีอุปสรรค จึงยังต้องรอผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากมีคำวินิจฉัยให้จัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง กระบวนการที่ค้างอยู่ ก็สามารถเดินต่อไปในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนได้ แต่ตนก็ยังวิตก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดประบวนการแก้ไขที่เหมือนไม่อยากให้แก้ เช่น การกำหนดเงื่อนไขเสียงในการแก้ไข เช่น การกำหนดเสียง สว. 1 ใน 3 ซึ่งหากถึงเวลานั้น ก็ต้องขอความร่วมมือวุฒิสภาร่วมแก้ไข และตนก็ยังวิตก และอาจจะถูกตีตกในชั้นนั้นก็ได้


ส่วนความเป็นไปได้ในการจัดการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ให้ดำเนินการประชามติ 3 ครั้งเลย โดยครั้งแรกให้จัดประชามติ ไปพร้อมกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนนั้น นายชูศักดิ์ ชี้แจงว่า หากจะดำเนินการแบบดังกล่าวแล้ว รัฐบาลจะสอบถามศาลรัฐธรรมนูญไปทำไม ซึ่งจะเป็นการกลับไปกลับมา ดังนั้น เมื่อสอบถามไปแล้ว ก็ควรรอคำวินิจฉัย เพราะการจัดการออกเสียงประชามติแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทต่อครั้ง และด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ด้วย ฉะนั้น ความตั้งใจของรัฐบาล ต้องการรอดูผลคำวินิจฉัยของศาล และไม่อยากให้ไม่สำเร็จ ความไม่แน่ใจต่าง ๆ ต้องไม่ทำ และทำในสิ่งที่แน่ใจ เพื่อให้กระบวนการไปต่อไป

นายชูศักดิ์ ยังยอมรับว่า รัฐบาลบริหารมา 2 ปีแล้ว และเหลือเวลาไม่นานจะครบวาระ เมื่อตนคำนวณไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 คาดว่า ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน รวมทั้งยังต้องจัดการออกเสียงประชามติ ที่จะต้องใช้เวลาอีก 3-4 เดือน และยังต้องเลือก สสร. 6 เดือนเป็นอย่างต่ำหลังประชามติเสร็จสิ้น จึงยอมรับว่า พิจารณาจากไทม์ไลน์แล้ว ยากลำบากที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้สำเร็จบริบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ในรัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลก็ตั้งใจว่า อย่างน้อยเมื่อมีข้อยุติในหลายประเด็นแล้ว ก็เดินหน้าต่อไปอย่างน้อยให้สามารถตั้ง สสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้ก็จะเป็นการดี.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]