กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.-นายกฯ ยินดีไทยเป็นสมาชิกยูเอ็นครบ 75 ปี ย้ำพร้อมเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือ คงบทบาทที่เข้มแข็ง สร้างสรรค์ ต่อเนื่องภายใต้เสาหลักด้านต่างๆ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในวาระครบรอบ 75 ปีการเป็นสมาชิกสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ของไทย ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหประชาชาติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2489 เป็นสมาชิกลำดับที่ 55 ทั้งนี้ สหประชาชาติเป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาทุกข์ แก้ไขปัญหาของประชาคมโลก จรรโลงสันติภาพและความมั่นคง ปกป้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และดำเนินงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ตลอดระยะเวลา 75 ปีที่ผ่านมา ภูมิใจที่ไทยได้มีส่วนร่วมในภารกิจทั้ง 3 เสาหลักของสหประชาชาติอย่างแข็งขัน ได้แก่ ด้านสันติภาพและความมั่นคง ไทยสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้งชายและหญิงกว่า 27,000 คนเข้าร่วมปฏิบัติการเพื่อสันติภาพในภูมิภาคต่าง ๆ กว่า 20 ภารกิจ ปัจจุบันไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านสิทธิมนุษยชน ไทยให้ความสำคัญกับการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน จนได้รับการยอมรับด้านการส่งเสริมสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมให้กับประชากร โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุและผู้โยกย้ายถิ่นฐาน เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ไทยเป็นประเทศรายได้ระดับกลางที่ประสบความสำเร็จในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับประชากรกลุ่มต่าง ๆ
“ด้านการพัฒนา ไทยเร่งดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมายหลักภายในปี 2573 โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางขับเคลื่อนและมุ่งนำเสนอการสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งในเวทีสหประชาชาติผ่านโมเดล BCG และ ในการประชุมเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2565 ไทยเสนอโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อส่งเสริมการเติบโตระยะยาวที่มีความยืดหยุ่น ครอบคลุม สมดุล และยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่ไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ของสำนักงานสหประชาชาติในภูมิภาคเอเชีย เป็นที่ตั้งของ เอสแคป (ESCAP) และอีกกว่า 40 หน่วยงานของสหประชาชาติ ไทยมุ่งมั่นพัฒนาความสามารถของบุคลากรด้านการทูตพหุภาคี โดยการสนับสนุนให้ปฏิบัติงานหรือดำรงตำแหน่งสำคัญในสหประชาชาติ
“ไทยให้ความสำคัญกับการเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เชื่อมั่นว่าความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนานาประเทศ โดยมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางความร่วมมือ จะเป็นทางออกให้ฝ่าฟันวิกฤติต่าง ๆ โดยเฉพาะความท้าทายรูปแบบใหม่ได้ โดยไทยยืนยันความพร้อมเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือพหุภาคีภายใต้สหประชาชาติ ให้สหประชาชาติเป็นกลไกแห่งการขับเคลื่อนที่เสริมพลังโลกให้เข้มแข็งกว่าเดิม รวมทั้ง ไทยจะคงบทบาทที่เข้มแข็ง สร้างสรรค์และต่อเนื่องในเวทีสหประชาชาติและเวทีโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย