รัฐสภา 26 พ.ย.-“ไพบูลย์” เดินหน้าตรวจสอบส.ส.โดดประชุมสภา จัดโปรแกรมประมวลผล แยกรายพรรค รายคน ย้ำฝ่ายค้านต้องช่วยเป็นองค์ประชุมเพราะกินเงินเดือนจากภาษีปชช.เหมือนกัน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมามีข้อถกเถียงเรื่ององค์ประกอบจนส่งผลให้ต้องนับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อ ว่า ผลที่ออกมาฝ่ายรัฐบาลร่วมประชุม 263 คน ฝ่ายค้าน 1 คน ซึ่งฝ่ายรัฐบาลมาเกินองค์ประชุมถึง 25 คน ซึ่งการทำหน้าที่มาประชุมและลงมติเป็นการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ทุกคน ภายใต้รัฐธรรมนูญ มาตรา114 ที่ต้องทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อีกทั้งข้อบังคับประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ข้อ14 และข้อบังคับการประชุม ส.ส. หมวด 2 ต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม ให้สมาชิกทำหน้าที่ เว้นแต่เจ็บป่วยสุดวิสัยและที่สำคัญส.ส. ทั้ง 475 คนได้รับเงินเดือนที่มาจากภาษี จึงต้องทำหน้าที่
“เพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในการประชุมสภาฯสัปดาห์หน้าจะนำผลการโหวต นับองค์ประชุมทุกครั้งของสภาฯ ไปเข้าโปรแกรมประมวลผล เพื่อให้เห็นว่ามี ส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้านมาประชุมกี่คน ขาดประชุมกี่คน แยกย่อยเป็นรายพรรคการเมือง และรายบุคคล เพื่อเป็นฐานข้อมูล เผยแพร่ทางเว็บไซต์ หรือทางออนไลน์ และจัดแถลงข่าวรายงานผลให้ประชาชนรับทราบ” นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่อ้างประเพณีว่าฝ่ายค้านไม่ต้องรักษาองค์ประชุม แต่เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่มีกำหนดในรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านเลี่ยงที่จะไม่มาประชุม ซึ่งการที่จะประมวลผล ฝ่ายค้านจะได้ประโยชน์ เพราะคนที่มาจะได้รับการเผยแพร่ว่าทำหน้าที่ ส่วนรัฐบาลจะเป็นไปตามที่หน้าพรรคพลังประชารัฐกำชับให้มาประชุม และการตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นการปฏิรุปสภาฯ โดยจะเริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันนี้(26 พ.ย.) ไม่ตรวจสอบย้อนหลัง ในฐานะที่เป็น ส.ส. อยากทำทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
ส่วนจะทำให้การทำงานของฝ่ายค้านและรัฐบาลลำบากขึ้นหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าทำด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปัญหาองค์ประชุมจะได้จบ วัฒนธรรมที่บอกว่าฝ่ายค้านกินภาษีเหมือนกัน แต่ไม่ต้องทำงานก็ได้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ส่วนที่ฝ่ายค้านจะใช้เป็นกลเกมในสภาฯ ควรใช้ในรูปแบบอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งกระทู้ถาม หรือตรวจสอบผ่านคณะกรรมาธิการ ซึ่งเป็น ส.ส.ต้องมาประชุมสัปดาห์หน้าก็จะรู้ว่าใครมาหรือไม่มาประชุม.-สำนักข่าวไทย