ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ 15 พ.ย.- นายกฯติดตามความคืบหน้าการพัฒนาสนามบินกระบี่ มั่นใจอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 แล้วเสร็จในปี 65 รองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่ ที่อยู่ระหว่างการขยายสนามบินให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติม โดยปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 และ 2 และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานกระบี่ จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้ 1,500 คนต่อชั่วโมง เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง หรือ จาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 8 ล้านคนต่อปี ในขณะที่อาคารจอดรถยนต์หลังใหม่ปรับปรุงจากหลังเดิม จะสามารถรองรับรถยนต์ได้สูงสุด 2,700 คัน รวมทั้งมีแผนงานก่อสร้างทางขับขนาน และระบบไฟฟ้าสนามบิน หากดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถเพิ่มขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นปีละ 70,000 คน ช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละ 1,830 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามจุดต่าง ๆ พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งบุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานต้องปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีมาตรการคลายล็อกดาวน์ในกิจการกิจกรรมต่างๆ แล้ว แต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการนี้จะเป็นการระมัดระวังป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาของนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ รวมถึงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสารทุกสัปดาห์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย