ทำเนียบรัฐบาล 3 พ.ย.-ศบค.กำชับสถานศึกษาคุมเข้มมาตรการดูแลนักเรียนให้ปลอดโควิด ห้วงเด็กนำเชื้อไปแพร่ผู้สูงอายุในครอบครัว ส่วนการเปิดประเทศราบรื่น เร่งฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่อง กำชับจัดงานกฐิน-ลอยกระทงต้องปลอดภัย รองรับเทศกาลปีใหม่ไร้โรค
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศบค. แถลงว่า ศบค.ได้ติดตามการควบคุมโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา ภายหลังเปิดภาคเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นห่วงว่าเด็กอาจนำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ขอให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน หากพบว่ามีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ให้รีบตรวจคัดกรอง ATK ทันที
“ส่วนกรณีนักเรียนอายุ 12 ปีได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก แล้วมีอาการทรุดหนัก เบื้องต้นพบว่าอาการไม่ได้เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ยืนยันว่าวัคซีนที่นำมาฉีดในประเทศไทย มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก” ผู้ช่วยรองโฆษกศบค. กล่าว
ส่วนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว พญ.สุมนี กล่าวว่า ยอดรวม 3 วัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 4,510 ราย 5 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี การ์ต้าและจีน ซึ่งในรายที่เข้ามาและผ่านการตรวจคัดกรองแบบ PCR มีผู้ติดเชื้อที่เข้ามาแบบ test and go จำนวน 3 ราย และแบบกักกัน อีก 3 ราย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย จะเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด ซึ่งเกือบทุกจังหวัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ครอบคลุมร้อยละ 50 ตามเป้าหมาย เหลือเพียง 1 จังหวัด คือหนองคาย
“เดือนพฤศจิกายนนี้มีประเพณีไทย คือ งานทอดกฐินและลอยกระทง ที่ประชาชนจะมารวมตัวกัน จึงกำชับให้สถานที่จัดงานตรวจก่อนเข้างานและต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อที่จะได้สามารถเดินหน้าแผนจัดงานช่วงปีใหม่ได้อย่างราบรื่นและไร้โรค” ผู้ช่วยรองโฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย