ศบค.ประชุมกำหนดมาตรการช่วงสงกรานต์ 18 มี.ค.

ทำเนียบรัฐบาล 7 มี.ค.-ศบค.ยังพบคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง ห่วงเด็กปิดเทอม ให้สังเกตอาการหลังไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เตรียมประชุม ศบค.ใหญ่ 18 มี.ค.นี้ กำหนดมาตรการสงกรานต์ 


พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ผู้ช้วยรองโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้(7 มี.ค.) ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการตรวจ RT-PCR 21,162 ราย ตรวจ ATK อีก 24,236 ราย รวม 45,398 ราย ถือว่าอยู่ในระดับทรงตัว จำนวนผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 102 ราย กำลังรักษา 230,459 ราย แยกรักษาที่บ้านและชุมชน 161,493 ราย ใน รพ. 68,996 ราย มีอาการหนัก 1,148 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 375 ราย นอกนั้นถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย 67,818 ราย เป็น 98.3% ซึ่งสามารถแยกกักรักษาที่บ้านหรือชุมชนได้ ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลคัดกรองคนอาการน้อยรักษาที่บ้าน เพื่อสงวนเตียงให้คนอาการปานกลางถึงหนัก

พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต ถือว่ามีจำนวนสูงขึ้น จากการมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยวันนี้เสียชีวิตสูงสุดในการระบาดระลอกนี้ 65 ราย ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 49 รายต่อวัน ส่วนติดเชื้อรายวันที่เป็นขาขึ้นนั้น เป็นแบบทรง ๆ ไม่ได้กระฉูดมาก นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังคือตามขอบแนวชายแดน คือ ตากและสระแก้ว ช่วง 2-3 วันมานี้ ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาตามขอบชายแดนมากขึ้น ขอความร่วมมือคนในพื้นที่เป็นหูเป็นตา ขอให้ช่วยกันแจ้ง นำมาคัดกรองไม่ให้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น


พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับกทม. พบคลัสเตอร์ใหม่ เป็นคลัสเตอร์ก่อสร้างเขตคลองสามวา 5 เขต พบติดเชื้อสูงสุดคือ หลักสี่ 470 ราย, บางซื่อ 187 ราย หนองแขม 67 ราย วัฒนา 44 ราย และดินแดง 38 ราย ส่วนสถานการณ์เตียงทั่วประเทศ ครองเตียงรวม 57.8% การระบาดของโอมิครอนเน้นรักษาอาการปานกลางถึงหนักหรือเตียงเหลืองและแดง โดยเตียงเหลืองระดับ 2.1 อยู่ที่ 25.1% เตียงเหลืองระดับ 2.2 อยู่ที่ 15.1% เตียงแดง 25%

พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต 65 ราย เป็นยอดสูงสุดในระลอกนี้ อายุเฉลี่ย 75 ปี มากกว่า 50 ปีถึง 91% และผู้เสียชีวิต 97% เป็นสูงอายุและมีโรคเรื้อรัง อยู่ในภาคใต้มากสุด 17 ราย กลาง 15 ราย อีสาน 12 ราย ปริมณฑล 8 ราย กทม. 7 ราย และเหนือ 6 ราย พบว่า 65% ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว 6% รับเข็มเดียว 18% รับ 2 เข็มเกิน 3 เดือน 3% รับเข็มสองไม่เกิน 3 เดือน และ 8% ได้ 3 เข็มไม่เกิน 2 สัปดาห์ โรคเรื้อรังของผู้เสียชีวิตที่พบบ่อย คือ มะเร็งระยะสุดท้าย โรคไตวายเรื้อรัง ภาวะติดเตียง และอ้วน อาจต้องไปศึกษาเพิ่มเติม เพราะพบในเสียชีวิตทุกวัน

“การวิเคราะห์จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน 15 ก.พ.-4 มี.ค. การระบาดของโอมิครอนเทียบเดลตา จำนวนเสียชีวิตน้อยกว่า ปัจจัยลดเสียชีวิตคือการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ประเทศที่รับเข็มกระตุ้น 60% คือ อังกฤษ เยอรมนี และเกาหลีใต้ ทำให้การเสียชีวิตน้อย สอดคล้องกับข้อมูลของกรมควบคุมโรค คือ การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะเสียชีวิตน้อยกว่าคนนับ 2 เข็ม 7 เท่า ลดการเสียชีวิต 41 เท่าเทียบกับคนไม่ได้รับวัคซีนเลย ซึ่งยังมีในไทย 2 ล้านกว่าราย” พญ.สุมนี กล่าว


พญ.สุมนี กล่าวว่า ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ขอความร่วมมือบ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือป่วยเรื้อรังและเด็กเล็ก ให้มารับวัคซีนทุกเข็มให้มากขึ้น เพราะช่วงสงกรานต์มีกิจกรรมร่วมกันค่อนข้างมาก และเสี่ยงที่จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งหยุดสงกรานต์มีหลายวันอย่างน้อย 5 วัน โดยวันนี้กรมอนามัยเสนอมาตรการป้องกันควบคุมโรคเทศกาลสงกรานต์ โดยประเด็นสำคัญคือ วันหยุดยาวต้องประเมินความเสี่ยงติดโควิดจากกิจกรรมใดบ้าง คือ เดินทางกลับภูมิลำเนา การรวมตัวญาติพี่ร้อง พบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน กิจกรรมร่วมกัน รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สาดน้ำปะแป้ง กิจกรรมรื่นเริงต่าง ๆ

“สถานที่ต้องเฝ้าระวังคือ ขนส่งสาธารณะ สถานีขนส่งทั้งเครื่องบิน รถโดยสาร รถตู้ รถประจำทาง ปั๊มน้ำมันทุกจุด จุดพักรถ สถานที่เสี่ยงสำคัญคือบ้าน ร้านอาหาร ศาสนสถาน สถานที่ทำกิจกรรมร่วมกัน สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตีมอลล์ แต่ช่วงสงกรานต์ก็ไม่ได้งดจัดหรือห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ต้องอยู่ใต้มาตรการความปลอดภัย คือ VUCA ได้แก่ V วัคซีน คนเดินทางกลับต่างจังหวัดต้องรับให้ครบ หากรับ 2 เข็มเกิน 3 เดือนให้มารับเข็มสาม รวมถึงคนที่อยู่ในบ้านในพื้นที่ U ป้องกันตนเองส่วนบุคคลสูงสุดตลอดเวลา ทั้งเดินทาง ร่วมกิจกรรม C COVID Free Setting สถานที่จัดงานทำตามมาตรการ มีการคัดกรองประเมินความเสี่ยง และ A มีการสุ่มตรวจ ATK ทั้งก่อนเดินทางไปและหลังเดินทางเพื่อความปลอดภัยในการทำกิจกรรมช่วงสงกรานต์” พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า  ส่วนการพิจารณามาตรการช่วงสงกรานต์ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะประชุมศบค.ชุดใหญ่ 18 มี.ค.นี้ โดยเรื่องมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์จะพิจารณาจาก 6 หน่วยงาน คือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม

พญ.สุมนี กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่เริ่มปิดเทอมมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่เด็กไปรวมตัวกันทำกิจกรรมต่าง ๆ สถานที่เสี่ยงหนึ่ง คือ การเล่นเกม และตู้เกม ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองต้องช่วยไปดูสถานที่ปิด มีความแออัดของเด็กไปเล่นเกมหรือไม่ เพราะจะเสี่ยงแพร่ระบาดของโรคง่ายขึ้น ประกอบกับเด็กเล็กยังไม่ฉีดวัคซีน มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดโรคมากขึ้น “เด็กเล็กมีรายงานติดโควิดทุกวัน พอไม่มีภูมิก็มีอาการมากกว่าผู้ใหญ่ เช่น ไข้สูง ทานอาหารไม่ได้ เพระาฉะนั้น บ้านไหนมีบุตรหลานอายุ 5-11 ปี ยังไม่ได้ฉีดวัควีน ช่วยกันพาเด็กไปฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน  ขอให้ ใช้มาตรการที่ว่าหลังเด็กไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ให้พยายามสังเกตอาการทางเดินหายใจด้วย ว่ามีอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูก คัดจมูก หรือมีไข้หรือไม่ ถ้ามีให้สงสัยว่าติดเชื้อหรือไม่ สุ่มตรวจด้วย ATK ทันที” พญ.สุมนี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย