ศบค.คาดปลายม.ค.ยอดอาจแตะ 2 หมื่น

ทำเนียบรัฐบาล 10 ม.ค.- ศบค.พบคลัสเตอร์โควิดต่อเนื่องหลายจังหวัด คาดปลายมกราคม ยอดติดเชื้อแตะ 2 หมื่น อาจขยับถึง 3 หมื่นในเดือนกุมภาพันธ์


พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค และผู้ช่วยรองโฆษกศบค.แถลงข่าวสถานการณ์โควิด 19 ถึง10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด คือ 1.ชลบุรี 767 ราย 2.สมุทรปราการ 693 ราย 3.กทม. 534 ราย 4.ภูเก็ต 513 ราย 5.อุบลราชธานี 383 ราย 6.นนทบุรี 261 ราย 7.นครศรีธรรมราช 227 ราย 8.ขอนแก่น 203 ราย 9.เชียงใหม่ 200 ราย และ 10.อุดรธานี 182 ราย โดยจังหวัดที่ติดเชื้อหลักร้อยมี 18 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเศรษฐกิจ นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า ซึ่งจะต้องเข้มมาตรการป้องกันกิจกรรมต่าง ๆ ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ส่วนรายงานน้อยที่สุดวันนี้คือลำพูน

พญ.สุมนี กล่าวว่า การจำแนกตามคลัสเตอร์ ตลาดพบที่ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ปทุมธานี พิษณุโลก แคมป์คนงานพบที่นครราชสีมา โรงเรียน นครปฐม ค่ายทหาร ประจวบคีรีขันธ์ สถานพยาบาล กทม. ปทุมธานี  พบมากช่วงปีใหม่ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ขอนแก่น บุรีรัมย์ พะเยา นนทุบรี ชลบุรี นครราชสีมา นครปฐม น่าน ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี มีรายงานอย่างต่อเนื่อง คลัสเตอร์แต่ละจังหวัดคล้ายกัน คือร้านอาหารกึ่งสถานบันเทิง คือยังไม่ดำเนินงานภายใต้มาตรการความปลอดภัย เพิ่มการแพร่ระบาดของเชื้อมากขึ้น และลงไปในระดับชุมชนและครอบครัว ต้องเฝ้าะรวังควบคุมใกล้ชิดมากขึ้น


“เราเฝ้าระวังคลัสเตอร์ปีใหม่ วันนี้รับรายงานจากหลายจังหวัด งานสังสรรค์งานเลี้ยงปีใหม่ เป็นไปตามคาดการณ์ พบที่อุบลราชธานี 33 ราย ขอนแก่น 25 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 22 ราย นครศรีธรรมราช 13 ราย ราชบุรี 8 ราย ลพบุรี 7 ราย พะเยา 6 ราย น่าน 8 ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ชลบุรี 5 ราย ยโสธร 6 ราย และมหาสารคาม 4 ราย นอกจากนี้ยังพบงานเลี้ยงวันเกิด 1 งานที่จันทบุรี ปัจจัยการแพร่คือการดื่มกินในสถานที่คนหนาแน่นจำนวนมาก อากาศไหลเวียนไม่ดี ดื่มสุราพูดคุยเสียงดัง ใช้เวลายาวนาน ทำให้แพร่เสี่ยงติดเชื้ออย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ปีใหม่มาทั้งคลัสเตอร์ร้านอาหารเลี้ยงฉลองปีใหม่”  พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า เมื่อพบติดเชื้อควรแยกตัวเองจากผู้อื่น เข้าสู่ระบบการรักษา คนเสี่ยงสูงให้แยกตัวเอง สังเกตอาการทางเดินหายใจ ซึ่งโอมิครอนอาการไข้จะไม่เยอะเท่าเดลตา ถ้ามีอาการทางเดินหายใจ ไม่มีไข้ ไปสถานที่เสี่ยง ควรตรวจด้วย ATK หากบวก แยกกักที่บ้าน เข้าระบบ HI CI ส่วนจำนวนภาพรวมการติดเชื้อทั้งหมดสถานการณ์จริง ไต่ระดับกราฟสีเทา

“ถ้าสีเทาไปเรื่อย ๆ ปลาย ม.ค.อาจติดเชื้อถึง 2 หมื่นกว่าราย และปลาย ก.พ.อาจไปถึง 3 หมื่นกว่าราย การคาดการณ์เสียชีวิตยังเป็นแนวทางเดียวกับโลก คือ ไต่ต่ำกว่าเส้นสีเขียว เพาะรับวัคซีนครอบคลุม ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด คนที่สงสัยว่าไปสถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ให้สังเกตอาการ กรมการแพทย์ได้เก็บข้อมูล ลักษณะอาการของโอไมครอนเห็นว่า 48% ไม่มีอาการ ส่วนอาการที่พบเยอะสุดคือไอ 54% เจ็บคอ 37% ไข้ 29%” พญ.สุมนี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง