เสนอศาลอุทธรณ์เพิกถอนสิทธิ “เอกภาพ พลซื่อ”

สำนักงาน กกต. 1 พ.ย.-กกต.เผยคำวินิจฉัยเสนอศาลอุทธรณ์เพิกถอนสิทธิ “เอกภาพ พลซื่อ” นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปราศรัยไฟดับ 2 ชั่วโมง ทำเมียคะแนนหาย พลาดเก้าอี้นายก อบจ. ปี 55 ขณะที่เจ้าหน้าที่ยันแค่ไฟตก 1 นาที ซ้ำเลือกตั้งจบไม่มีใครร้องคัดค้าน

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. กรณีมีมติยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อให้สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายเอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด และสั่งให้เลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง แทนนายเอกภาพ รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับนายเอกภาพ ตามมาตรา 654 (5) ประกอบมาตรา 126 วรรคสอง

ทั้งนี้ ระบุพฤติการณ์การกระทำผิดของนายเอกภาพ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ว่า มีผู้กล่าวหานายเอกภาพ ว่าเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 14.00-15.00 น. ที่หอประชุมอำเภอเกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด นายเอกภาพ ปราศรัยหาเสียงข้อความตอนหนึ่งว่า “เมียผมลงสมัครเป็นนายก อบจ.สามครั้งพู้นเด้ ผมชนะหนึ่ง แพ้หนึ่ง ถูกโกงหนึ่ง ปี 47 รัชนี (ภรรยานายเอกภาพ) ชนะปี 51 ทินกรกับมังกรจับมือกัน ผมแพ้ปีนั้น พอปี 55 เขาเป็นรัฐบาล เอารัฐมนตรีมาส่อยหาเสียงไปทั่วบ้านนั้นบ้านนี้…ขนาดรัฐมนตรีก็มา ณัฐวุฒิ จตุพรมา แพ้เมียเอกภาพ พอนับคะแนนว่ารัชนีชนะ พอว่าชนะท่อนั้นไฟดับปีบเลย 2 ชั่วโมง เปิดมาเมียผมแพ้ บ่มีคะแนนโชว์ โกงหน้าด้านๆ เลย” ซึ่งคำปราศรัยดังกล่าวถือเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้ร้องว่าได้โกงการนับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อ 27 พฤษภาคม 2555

จากพยานหลักฐานและการไต่สวนของ กกต. นายเอกภาพให้ถ้อยคำยืนยัน ไม่ได้ใส่ร้ายผู้ใด ไม่มีการระบุชื่อว่าผู้ใดทำให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับจนทำให้ภรรยาไม่ได้รับเลือกตั้ง ขณะที่เมื่อไต่สวนเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งที่ปฏิบัติหน้าที่รวบรวมคะแนนเลือกตั้งที่อาคารชั้น 2 ของสำนักงาน อบจ.ร้อยเอ็ด ในการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2555 ตลอดจนเจ้าพนักงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ขณะรวบรวมผลคะแนนเลือกตั้งดังกล่าว ไม่มีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ มีเพียงไฟฟ้าตกประมาณ 1 นาที

การนับคะแนนเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รวมคะแนนเลือกตั้งที่ กกต.ประจำ อบจ.ร้อยเอ็ด แต่งตั้งขึ้น ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงผลคะแนนเลือกตั้งได้ อีกทั้งสามารถขอตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ได้ทุกขั้นตอน ซึ่งไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดมาร้องเรียนหรือขอตรวจสอบผลคะแนน และไม่มีผู้ยื่นร้องคัดค้านเกี่ยวกับการนับคะแนนดังกล่าว

ส่วน ผอ.กองกิจการสภา อบจ.ร้อยเอ็ด ให้ถ้อยคำว่า ที่นายเอกภาพนำประเด็นไฟฟ้าดับไปปราศรัยนั้น ตอนเลือกตั้ง อบจ. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2555 เวลา 14.00 น. ได้เกิดเหตุฟิวส์สะพานไฟหน้าห้องประชุม อบจ.ร้อยเอ็ดไหม้ ทำให้ไฟฟ้าภายในอาคารสำนักงาน อบจ.ร้อยเอ็ด ดับทั้งหมด ซึ่งดำเนินการแก้ไขจนไฟฟ้าในอาคารใช้ได้ในเวลา 15.00 น. และการเตรียมการในวันเลือกตั้ง อบจ.ร้อยเอ็ด ปี 55 ได้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ร้อยเอ็ด มาติดตั้งเครื่องสำรองไฟ จำนวน 2 เครื่อง ภายในห้องรายงานผล และยังมีประชาชนประมาณ 100 คน มาติดตามการรายงานผล ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม 2555 ถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม ไม่เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ

จากข้อเท็จจริงดังกล่าว กกต.จึงเห็นว่า นายเอกภาพ ใส่ร้ายด้วยความเท็จจริง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (5) จึงมีมติให้ยื่นศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนออกจากตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย