ทำเนียบรัฐบาล 27 ต.ค.-ศบค.พบผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตจากโควิดลดลง กทม.ติดเชื้อต่ำกว่าพันวันที่ 6 แล้ว แต่ยังห่วงคลัสเตอร์จากแคมป์ก่อสร้าง งานศพ เร่งฉีดวัคซีน นร.-นศ. ครู พื้นที่สีแดงเข้ม-แดง
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้(27 ต.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,452 ราย ติดเชื้อในประเทศ 8,285 ราย จากต่างประเทศ 7 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 160 ราย ผู้ป่วยหายแล้ว 8,449 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 98,096 ราย โดยรักษาในโรงพยาบาล 42,762 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 55,334 ราย อาการหนัก 2,355 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 534 ราย และเสียชีวิต 57 คน
“ทิศทางของผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก คือมีทิศทางที่ลดลง โดยผู้เสียชีวิต 57 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 29 คน คนไทย 55 คน เมียนมา 1 คน และจีน 1 คน อายุระหว่าง 30 ถึง 98 ปี ผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 46 คน อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 8 คน อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 คน ทั้งนี้ พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้อยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออกมากกว่าภาคใต้ คือ 17 ราย ชลบุรี 5 ราย สระบุรี 3 ราย ระยอง 2 ราย เพชรบุรี 2 ราย อ่างทอง ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สุพรรณบุรี และปราจีนบุรี จังหวัดละ 1 คน ส่วนแนวโน้มผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลง ขณะที่จังหวัดอื่น ๆ มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่ลดลงแบบทรง ๆ เช่นเดียวกับในจังหวัดชายแดนใต้” ผู้ช่วยรองโฆษกศบค. กล่าว
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ พบว่าแต่ละจังหวัดมีผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 1,000 คน โดยมากที่สุด ที่กทม. 859 ราย สงขลา 551 ราย ปัตตานี 532 ราย ยะลา 475 ราย จันทบุรี 358 ราย นครศรีธรรมราช 345 ราย นราธิวาส 331 ราย สมุทรปราการ 306 ราย ชลบุรี 297 ราย และเชียงใหม่ 270 ราย โดยกทม.มีผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 1,000 คนเป็นวันที่ 6 แล้ว สำหรับ 10 จังหวัดผู้ติดเชื้อรายใหม่จะพบคลัสเตอร์ที่ จังหวัดจันทบุรีที่แคมป์ก่อสร้าง 132 คลัสเตอร์ จากแรงงานอีก 6 คลัสเตอร์และพบคลัสเตอร์งานศพที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 คลัสเตอร์ ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเน้นเรื่องมาตรการส่วนบุคคล ใส่หน้ากากอนามัย
“สำหรับการฉีดวัคซีนวานนี้ (26 ต.ค.) ฉีดเพิ่มขึ้น 812,009 โดส เข็มหนึ่ง 371,263 ราย เข็มสอง 401,747 ราย เข็มสาม 38,999 ราย ทำให้ยอดการฉีดรวม 72,049,529 โดส ซึ่งกลุ่มที่มีความสำคัญที่ต้องฉีดวัคซีนช่วงนี้คือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-17 ปี ที่ฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 1,924,942 ราย จากจำนวน 4,500,000 ราย ทั้งนี้ นอกจากการเร่งระดมฉีดให้กับนักเรียน นักศึกษาแล้ว ยังต้องฉีดให้กับครูและบุคลากรในโรงเรียน โดยที่ประชุมของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข(อีโอซี.) ของกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบให้สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุม ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดสอย่างน้อย 85 % จึงจะเปิดเรียนแบบออนไซด์ได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการต้องฉีดเพิ่มอีก 131,238 คน” ผู้ช่วยรองโฆษกศบค. กล่าว
พญ.สุมนี กล่าวเชิญชวนให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสต้าเซเนก้า 2 เข็มเมื่อเดือนพฤษภาคมมาฉีดกระตุ้นภูมิเข็มที่สาม ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวสีฟ้า 15 จังหวัดที่ฉีดได้ตามเป้าหมายของเดือนนี้คือกทม. เชียงใหม่ สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด บุรีรัมย์ กระบี่ พังงา และระนอง ส่วนจังหวัดที่ฉีดใกล้ 50 % คือ หนองคาย เลยและอุดรธานี ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่จ. ยะลาและสงขลา ฉีดเข็มที่หนึ่งเกินร้อยละ 50 แล้ว และพบว่าทิศทาง แนวโน้มการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง
ผู้ช่วยรองโฆษกศบค. กล่าวว่า วันศุกร์ที่ 29 ต.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. จะเป็นประธานประชุมศบค.ชุดใหญ่.-สำนักข่าวไทย