“แสนยากรณ์”จี้รัฐแผนหารายได้ต้องชัดหากขยายเพดานหนี้

กทม. 21 ก.ย.- “แสนยากรณ์” ชี้ ขยายเพดานหนี้ 70% – เตรียมกู้เพิ่ม แผนหารายได้ต้องชัด ขอปล่อยกู้ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว รองรับการแข่งขันเปิดประเทศทั่วโลก เตือนถ้าแผนไม่ชัด คนโยงอัดเงินก่อนยุบสภา-เลือกตั้งแน่


นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีขยายเพดานหนี้สาธารณะจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของ GDP ตามมติคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังว่า ขณะนี้หนี้สาธารณะอยู่ที่ 8.9 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.59 ของ GDP (ก.ค.64) หากมีการใช้เงินกู้ครบถ้วนคาดว่าปลายปีนี้หรือไม่เกินต้นปี 2565 หนี้สาธารณะน่าจะทะลุเพดาน จึงเป็นเหตุให้ต้องขยายเพดานหนี้ชั่วคราว เพื่อฟื้นฟูวิกฤตเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาโควิด-19 แต่สาระที่น่าสนใจคือการกำหนดเงื่อนไขจะลดระดับกลับมาที่ร้อยละ 60 ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำตามที่ตั้งเป้าไว้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 จะยืดเยื้อหรือไม่ บวกกับสมรรถนะของรัฐในการหารายได้

นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า การฟื้นฟูภาคบริการและการท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หากจะมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะหรือกู้เพิ่ม ต้องมีความชัดเจนเรื่องนี้ด้วย เพราะทันทีที่สถานการณ์ดีขึ้น หลายประเทศเปิดพร้อมกัน ทุกประเทศก็จะแย่งนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมให้เร็วกว่าประเทศอื่นเพื่อรองรับการแข่งขัน


“ภาคการท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 4 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร จำนวนมากได้รับผลกระทบหนัก หลายที่ปิดกิจการ ดังนั้นหากจะมีการขยายเพดานหนี้ที่ร้อยละ 70 และเตรียมกู้เงินรอบใหม่ ก็ควรกำหนดแผนการหารายได้ให้ชัดเจนด้วย โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฟื้นภาคการท่องเที่ยว เพื่อเป็นเครื่องมือหารายได้เข้าประเทศ หากภาครัฐไม่ได้กำหนดแผนเกี่ยวกับการฟื้นฟูภาคบริการและการท่องเที่ยวให้ชัดเจน แผนจะลดเพดานหนี้สาธารณะกลับมาที่ร้อยละ 60 ภายใน 10 ปี คงเป็นแค่ฝันไป” นายแสนยากรณ์ กล่าว โฆษกพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า หวังว่าการขยายเพดานหนี้สาธารณะ และการกู้เพิ่มที่จะเกิดขึ้น จะมีแผนและเป้าหมายชัดเจน เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 เยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เข้าใจผิดนำผูกโยงกับเรื่องการเมือง โดยเฉพาะการอัดเงินลงพื้นที่ก่อนการเลือกตั้ง ตามที่หลายฝ่ายจับสัญญาณถึงการเตรียมความพร้อมว่าอาจมีการยุบสภาเร็วๆ นี้. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก