fbpx

ก้าวไกลค้านโยกงบที่ปรับลดเข้างบกลาง ชี้ตรวจสอบยาก

รัฐสภา 18 ส.ค. – ก้าวไกลจัดหนัก ค้านโยกงบที่ปรับลดเข้างบกลาง ชี้ตรวจสอบยาก สุดท้ายต้องโหวต เสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้โยกงบ 16,362 ล้านบาท เข้างบกลางไว้ปัญหาโควิด-19


การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวาระที่ 2 เริ่มเข้มข้นในช่วงบ่าย เมื่อเข้าสู่เนื้อหาของมาตรา 6 งบกลาง ที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่ขอปรับลดงบประมาณ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการนำงบประมาณที่ได้จากการปรับลดจากส่วนราชการต่างๆ ในชั้นกรรมาธิการ จำนวน 16,362 ล้านบาท ไปเพิ่มในงบกลาง

โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ชี้ว่า การเพิ่มงบกลางเป็นการให้อำนาจโดยสมบูรณ์กับนายกรัฐมนตรีนำการเบิกจ่ายในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมามีการนำไปใช้อย่างไม่สมเหตุสมผลหลายเรื่อง เช่น การให้กระทรวงกลาโหมไปจัดทำ State quarantine ถึง 1,163 ล้านบาท ทั้งที่ควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข แต่เมื่ออยู่ในงบกลาง นายกรัฐมนตรีจะมอบให้กระทรวงใดดำเนินการก็ได้ นอกจากนี้ งบประมาณที่อยู่ในงบกลาง ยังตรวจสอบได้ยาก อีกทั้งในงบกลางก็มีการตั้งงบสำรองฉุกเฉินในการแก้ปัญหาโควิด-19 ไว้แล้วกว่า 80,000 ล้านบาท


ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ อภิปรายขอปรับลด กล่าวว่า ที่ผ่านมาแทนที่รัฐบาลจะนำเงินไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชน แต่กลับนำไปเสริมภารกิจด้านความมั่นคงของรัฐบาล จึงเห็นว่าการจัดสรรงบกลางนั้นมีความไม่โปร่งใส เป็นการตีเช็คเปล่าให้กับนายกรัฐมนตรี จึงควรกระจายงบกลางไปให้ท้องถิ่นที่รู้ปัญหาในพื้นที่นำไปใช้มากกกว่า

ขณะที่นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับการนำงบประมาณ 16,362 ล้านบาท ไปเพิ่มไว้ในงบกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 เพราะการเสนองบประมาณในปี 2565 ไม่มีการตั้งงบสำหรับการแก้ปัญหาโควิด-19 ต่างจากปี 2564 ที่ตั้งไว้ 40,000 ล้านบาท แต่ปัญหาเวลานี้ คือ ไม่มีใครไว้ใจรัฐบาลในการใช้จ่ายงบประมาณว่าจะเกิดประโยชน์หรือไม่ ดังนั้น เพื่อความมั่นใจ ต้องนำงบส่วนนี้ไปซื้อวัคซีน mRNA ให้กับคนไทยเท่านั้น โดยขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศต่อสภาฯ ให้ชัดเจนด้วย

ในที่สุดต้องมีการลงมติ และที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบตามกรรมาธิการให้โยกงบฯ ที่ปรับลด 16,362 ล้านบาท มาไว้ที่งบกลาง ด้วยมติ 326 ต่อ 51 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับการพิจารณางบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี แม้ฝ่ายค้านจะเสนอปรับลดงบลับในสำนักนายกรัฐมนตรีและงบที่ซ้ำซ้อน แต่ที่ประชุมยังคงไว้


ส่วนในมาตรา 8 งบประมาณของกระทรวงกลาโหม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เห็นว่า กองทัพไม่ควรจัดซื้ออาวุธในวันที่ประชาชนต้องการวัคซีนมากกว่ากระสุน ซึ่งแม้ว่ากองทัพเรือจะยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำแล้ว แต่ยังมีงบประมาณสิ่งก่อสร้าง ยุทโธปกรณ์สนับสนุนเรือดำน้ำ และอาวุธขนาดใหญ่อีกมาก ทั้งท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมเรือดำน้ำ คลังเก็บตอร์ปิโด

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบกับการแก้ไขของกรรมาธิการ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง