กรุงเทพฯ 17 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” โพสต์เฟซบุ๊กแจงเหตุผลที่ต้องผลักดันแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพิ่มโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ผ่านกลไกส.ส.ร.
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ทำไมต้องเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับควบคู่กับการเสนอแก้เป็นรายมาตรา ว่า เป็นที่ประจักษ์ชัดกันอยู่แล้วว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก่อให้เกิดปัญหามากมายและถูกวางกลไกให้ยากต่อการแก้ไข การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเป็นการยืนยันนโยบายและจุดยืนเดิมของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเห็นว่าการแก้ไข รัฐธรรมนูญทั้งฉบับเป็นสิ่งที่จำเป็น ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร. ) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ คือหลักการพื้นฐานที่ถูกต้องและควรผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายภูมิธรรม ระบุว่า แต่สถานการณ์ทางการเมืองในวันนี้ ไม่มีหลักประกันใด ๆ เลยว่าการแก้รธน.ทั้งฉบับ หรือ การมี สสร.จะเกิดขึ้นได้เมื่อไรหรือจะเกิดขึ้นหรือไม่ ? การทำการเมืองที่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ให้เข้มแข็ง ต้องยึดหลักการและอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างมั่นคง แต่ที่สำคัญ ต้องเข้าใจ วิธีการจัดการ ที่สอดรับกับความเป็นจริงและเคารพความเห็นต่างของทุกฝ่าย แสวงหาความร่วมมือกับทุกคน พรรคเพื่อไทยจึงเห็นความจำเป็นในการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในบางด้านเช่น เรื่องการเพิ่มสิทธิเสรีภาพให้มากขึ้น หรือการยืนยันเพิ่มสิทธิการประกันตัวของผู้ถูกกล่าวหาให้ได้รับการคุ้มครองในคดีอาญาใด ๆ รวมทั้งแก้ไขในบางประเด็นให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่สมควรทำควบคู่ไปกับการเสนอแก้ไขทั้งฉบับ
“โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้ง ซึ่งควรต้องกลับไปใช้กระบวนการที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด เช่น การเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบ เพื่อให้ประชาชน “เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ใช่” ตามแบบรธน.ปี 40 ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ผมคิดว่าการเสนอแก้ไข รัฐธรรมนูญทั้งฉบับควบคู่กับการเสนอแก้เป็นรายมาตราไม่น่าจะเกิดความเสียหายใด ๆ ในทางตรงข้ามกลับ น่าจะเกิดผลดีมากกว่า เพราะหากเกิดมีอุบัติเหตุทางการเมือง และเกิดการเลือกตั้งขึ้นกะทันหัน …อย่างน้อยที่สุด เราอาจได้กติกาบางเรื่องที่ดีและมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” นายภูมิธรรม ระบุ
นายภูมิธรรม ระบุว่า แต่ถ้าไม่แก้รายมาตราเลย หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น เราก็จะต้องกลับเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามกติกาเดิมที่ “คสช.” กำหนดขึ้น…เหมือนการเลือกตั้งครั้งล่าสุด จึงไม่เห็นว่าการทำ 2 อย่างควบคู่กันไป จะก่อผลเสียหายใด ๆมากมาย..แล้วทำไมเราจะไม่ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น เราควรทำทุกช่องทางที่จะเกิดประโยชน์ และที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารให้ประชาชนร่วมรับรู้ เพื่อร่วมเข้าช่วยกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธณรมนูญปี 60 ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขทั้งฉบับหรือรายมาตราในอันที่จะกดดันให้รัฐ (เผด็จการแฝงรูป) ต้องเร่งดำเนินการโดยไม่บิดพลิ้ว .-สำนักข่าวไทย
