กลาโหม วันนี้ ( 15 มิ.ย.) รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ประชุมขับเคลื่อนความร่วมมือกัน รับความท้าทายความมั่นคงในอนาคต ภัยคุกคามไซเบอร์ และการเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าช่วงเช้ามวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ( ADMM ) ครั้งที่ 15 ที่ศาลาว่าการกลาโหม โดยมีกระทรวงกลาโหมบรูไน เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นผ่านระบบ VTC ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ที่มีพัฒนาการด้านต่างๆ ในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา ต่อจากนั้นได้ร่วมกันพิจารณาและรับรองร่างเอกสารแนวความคิดที่นำไปสู่ความร่วมมือจำนวน 9 ฉบับ มีสาระสำคัญ อาทิ แนวทางที่ชัดเจนในการปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่าง กห.อาเซียน และกห.ประเทศคู่เจรจา รวมทั้งภาคีภายนอกภูมิภาค โดยเปิดกว้างให้องค์กรระหว่างประเทศและประเทศผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนากลไกการติดต่อสื่อสารโดยตรงระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
การจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือด้านความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถและการปฏิบัติการร่วมกันในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ของภูมิภาค และการจัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านข้อมูลข่าวสารและความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนาขีดความสามารถทางไซเบอร์ร่วมกัน ตลอดจนแนวคิดการประชุมเฉพาะกิจในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน กับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ว่าด้วยภัยคุกคามด้านเคมีชีวภาพและรังสี เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความร่วมมือในการรับมือกับการก่อการร้าย
นอกจากนี้ ยังหารือถึงระเบียบปฏิบัติประจำของศูนย์ประสานงานนานาชาติ กรณีเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อประสานการทำงานร่วมกันของกองกำลังทหารประเทศที่ประสบภัยและประเทศที่ให้การช่วยเหลือ
ต่อจากนั้นได้ร่วมกันรับรองร่างปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวัน 2 ฉบับ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมและเตรียมความพร้อม สำหรับอนาคต สันติภาพและความมั่นคงของอาเซียน ภายใต้กลไกการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน กับรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เช่น การเสริมความร่วมมือในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 การมีส่วนร่วมของสตรีเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคง ความร่วมมือริเริ่มใหม่ปี 64 และการจัดประชุม ADMM-Plus เป็นประจำทุกปี เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำ ยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในปฏิญญาฉบับดังกล่าวในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงของภูมิภาค โดยยึดมั่นในความเป็นแกนกลางอาเซียน รวมทั้งเสริมความร่วมมือทางทหารระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการพัฒนาและนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศในภูมิภาคให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปภาพรวมว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยมิตรภาพและความเป็นกันเอง แม้จะเป็นการประชุมผ่านระบบ VTC สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นใกล้ชิดและต่อเนื่องของรัฐมนตรีกลาโหม และการทำงานของกลาโหมทุกประเทศ เพื่อร่วมกันรักษาสมดุลและสร้างสันติสุขร่วมกันในภูมิภาค ภายใต้ผลประโยชน์และความไว้เนื้อเชื่อใจร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย