กรุงเทพฯ 16 พ.ค.-สภาฯ เตรียมแผนยกระดับคุมโควิด-19 เข้มอีก รับมือ ถก พ.ร.บ.งบ 65 ปลายเดือนนี้ เน้นลดจำนวนบุคคลเข้าสภาฯ แยกห้องทำงาน ส.ส. และให้บุคลากรฉีดวัคซีน
นางพรพิศ เพชรเจริญเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลผ่อนผันข้อกำหนดให้การประชุมสำคัญที่ผู้เข้าร่วมซึ่งจำเป็นต้องอภิปรายสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้นั้น ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ได้เจาะจงเฉพาะการประชุมสภาเท่านั้น แต่ก็มีผลหากสมาชิกที่จะอภิปรายจำเป็นต้องถอดหน้ากากจริงๆ สามารถทำได้ เพราะการอภิปรายบางคนใช้เวลานาน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสมาชิกทุกคนที่ร่วมประชุมต่างก็มีความหวาดกลัวคงไม่มีใครอย่างถอดหน้ากากโดยไม่จำเป็น
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่า แม้จะมีการผ่อนผันให้ถอดหน้ากากระหว่างอภิปรายได้ แต่ยังมีมาตรการอื่นๆ ที่เตรียมไว้เพื่อจะยกดับอย่างเข้มข้นขึ้นไปอีก เช่น
- การขอความร่วมมือบุคลากรทุกคนที่จำเป็นต้องเข้ามารัฐสภาควรไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ขณะนี้ มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนไปรับวัคซีนแล้ว กว่า 1000 คน ส่วน ส.ส.รับวัคซีนแล้ว 235 คน
- ลดจำนวนบุคคลที่จะมาอาคารรัฐสภา เช่นให้ สมาชิก นำผู้ติดตามมาสภาได้เพียง 1 คนเท่านั้น
- ผู้ที่จะเข้าอาคารรัฐสภาทุกคนต้องประเมินความเสี่ยงเพื่อรวบรวมเป็นฐานข้อมูลกลางในการบริหารจัดการ
- การประชุมสภาสมาชิกจะต้องนั่งเก้าอี้เส้นระยะห่างระหว่างกัน โดยผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าประชุมสามารถติดตามการประชุมห้องประชุมได้
- เมื่อมีการลงมติ จะมีการจัดลำดับสมาชิก เข้ามาลงมติในห้องประชุม
- สภาจะมีการเปิดใช้ห้องทำงานส่วนตัวสมาชิก เพื่อแยกพื้นการทำงานลดการรวมตัว
- ยกเลิกการทานอาหารบุฟเฟ่ต์อาหารของสมาชิก ให้รับประทานเป็นแบบ Box Set แทนเพื่อแยกไปทานที่ห้องทำงานส่วนตัวได้
- การประชุมกรรมาธิการ สามารถประชุมและให้หน่วยงานเข้าชี้แจงข้อมูลทางออนไลน์ได้
- จัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์สมาชิกแบบมีระยะห่าง งดการรวมกลุ่มสัมภาษณ์
- การผ่านทอดการประชุมจะอนุญาตเฉพาะทีวีรัฐสภาเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดเท่านั้นไม่อนุญาตสื่อมวลชนอื่นอยู่ในพื้นที่ห้องประชุม
นอกจากนี้ยังมีมาตรการพื้นฐานอื่นๆ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิ การกำหนดทางเข้าออก การงดรับประทานอาหารในโรงอาหาร ซึ่งมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว โดยมาตรการที่เพิ่มเติมดังกล่าวนี้ อยู่ระหว่างเสนอให้ นายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภาพิจารณา เพื่อประกาศเป็นมาตรการอย่างเป็นทางการต่อไป.-สำนักข่าวไทย