วันนี้ ( 26 มี.ค.) ผู้ตรวจฯ ส่งคำวินิจฉัยกลาง มติศาลปกครองสูงสุดนับอายุความขัดรัฐธรรมนูญให้ คมนาคม-รฟท.แล้ว หวังใช้เป็นหลักฐานใหม่ รื้อคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ไม่ต้องจ่าย 2.4 หมื่นล้าน “พล.อ.วิทวัส” แนะถอดบทเรียนโครงการใหญ่ อย่าคิดแต่ราคาต่ำ ผลตอบแทนให้รัฐสูง ต้องดูประสิทธิภาพดำเนินโครงการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับคำวินิจฉัยกลาง กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีการชี้ขาดการนับอายุความคดีปกครอง ที่อาจส่งผลต่อการจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรค 4 ในการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้พิจารณาคำวินิจฉัยกลางและจัดส่งสำเนาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไปให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่าหลังจากนี้เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟ จะไปหารือกันว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร โดยมีช่องทางรื้อคดีใหม่ได้ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 75 ( 4 ) บัญญัติว่า กรณีคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น โดยนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไปยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดให้ทบทวนคดีใหม่ “ผลการพิจารณาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ อยู่ที่อำนาจของศาลปกครอง แต่ในฐานะที่เป็นคนไทยก็หวังในใจ ว่าจะมีลุ้นเปลี่ยนแปลงผลของคดีนี้ ให้รัฐไม่ต้องจ่ายเงินที่ไม่ควรจ่าย ซึ่งกรณีนี้อยากให้ถอดบทเรียนการให้สัมปทานโครงการขนาดใหญ่ อย่าดูแต่ราคาต่ำ หรือผลตอบแทนที่จะให้รัฐในราคาสูงเท่านั้น ต้องดูศักยภาพของผู้เข้าประมูลด้วยว่า มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการจริงหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยโครงการโฮปเวลล์” พล.อ.วิทวัส กล่าว