กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – ย้อนดูไทม์ไลน์ก่อนมาถึงวันนี้ วันที่ศาลฎีกาประทับรับคำร้องของ ป.ป.ช. ปมขัดจริยธรรมร้ายแรง กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี ไว้พิจารณา ว่าผู้เกี่ยวข้อง และ ป.ป.ช. ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอะไรไปบ้าง
คดีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ บุกรุกที่ดินป่าสงวน ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เริ่มขึ้นเมื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบที่ดิน ภ.บ.ท.5 กว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 62 สื่อหลายสำนักรายงานอ้างแหล่งข่าวใน ส.ป.ห.ว่า ส.ป.ก.จังหวัดราชบุรี ดำเนินการตรวจสอบแปลงที่ดินซึ่งเป็นฟาร์มไก่เขาสน ที่มีนางสาวปารีณาครอบครอง โดยระบุว่าเป็นที่ดินของกรมป่าไม้ และการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ฟาร์มไก่อยู่ในเขตของ ส.ป.ก. ประมาณ 1,000 ไร่ โดยมีชื่อนายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี บิดาของนางสาวปารีณา เป็นผู้ถือครองตั้งแต่ปี 54
จากนั้น 13 พฤศจิกายน 62 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. สั่งสอบการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่ง ป.ป.ช. ยืนยันว่าเมื่อมีการร้อง ป.ป.ช. ก็มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน
การตรวจสอบบัญชียื่นแสดงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. พบว่านางสาวปารีณาแจ้งครอบครองที่ดินไว้ขณะเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 22 มกราคม 51 ว่ามีอยู่ 76 แปลง โดยเป็นโฉนด น.ส.3 ก ในพื้นที่ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี 41 แปลง และระบุว่าที่ดินทั้งหมดจำนองไว้กับ ธ.ก.ส. แต่ไม่ปรากฏที่ดินประเภท ภ.บ.ท.5 แต่อย่างใด แต่เมื่อพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 56 ได้ระบุว่ามีรายได้จากฟาร์มเลี้ยงไก่ 30 ล้านบาท มีรายจ่ายค่าฟาร์มไก่ 20 ล้านบาท
25 พฤษภาคม 62 นางสาวปารีณาที่เข้ารับตำแหน่ง ส.ส. อีกครั้ง แจ้งบัญชีทรัพย์สินว่ามีที่ดิน 76 แปลง เป็นแบบ ภ.บ.ท.5 จำนวน 57 แปลง ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี แต่ในรายละเอียดไม่ได้ระบุวันเดือนปีที่ได้มา มีแต่บอกว่ามีมูลค่ารวมกันโดยประมาณ 2 แสนบาท
ขณะเดียวกันระบุด้วยว่ามีรายได้เป็นเงินเดือน ส.ส. 1,362,720 บาท รายได้จากการเลี้ยงไก่ 109,962,076 บาท และรายได้จากการเลี้ยงวัว 675,000 บาท และมีรายจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3,600,000 บาท และค่าใช้จ่ายฟาร์มไก่ 107,770,454 บาท
นอกจากนี้นางสาวปารีณายังแจ้งว่ามีเงินลงทุนในบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ ที่จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 61 ตั้งอยู่ในพื้นที่ 99/9 หมู่ 3 ตำบลบางโตนด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี แจ้งประกอบธุรกิจกิจการฟาร์มไก่และรับจ้างเลี้ยงไก่ มีนางสาวปารีณาเป็นกรรมการเพียงคนเดียว
เมื่อย้อนไปตรวจสอบไทม์ไลน์ความเชื่อมโยงการไต่สวนของ ป.ป.ช. ในประเด็นฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ปรากฏข้อมูลว่านางสาวปารีณาได้ร่วมกับบิดา เข้ายึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินพื้นที่หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 วา เมื่อ 18 ปีก่อน โดยมิชอบ โดยมีพฤติการณ์คือ ช่วงปี 46-62 ไปขอใช้ไฟฟ้า และชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินเพื่อประกอบกิจการปศุสัตว์กับ อบต.รางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
ปี 49-56 ชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 จำนวน 29 แปลง ส่วนที่ดินที่เหลืออีกจำนวนหนึ่งได้กระจายการถือครอง โดยใช้ชื่อแรงงานที่อยู่ในฟาร์ม ปี 55 โอนที่ดินกลับมาเป็นชื่อของตัวเองทั้งหมด ปี 57 อบต.รางบัว ยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ แต่นางสาวปารีณายังถือครองและใช้ประโยชน์ที่ดินต่อ ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.
ปี 55-62 ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกับ อบต.รางบัว และยื่นขอใบรับรองมาตรฐาน “เขาสนฟาร์ม” และ “เขาสนฟาร์ม 2” บนที่ดินผืนดังกล่าวต่อกรมปศุสัตว์ ปี 61 ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ เพื่อประกอบกิจการ
25 พฤษภาคม 62 ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ซึ่ง ป.ป.ช. ขยายความว่า นางสาวปารีณายังยึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว โดยนำเอกสารแบบแสดงรายการที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 29 แปลงมาอ้าง ทั้งที่ที่ดินถูกยกเลิกไปแล้ว และไม่ได้รับอนุญาตจาก ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ ทำให้ต่อมากรมป่าไม้ร้องทุกข์ต่อ บก.ปทส. ให้ดำเนินคดีอาญากับนางสาวปารีณา ข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ 711 ไร่ 2 งาน 93 วา ค่าเสียหายรวมมูลค่ากว่า 36 ล้านบาท
10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ชี้มูลนางสาวปารีณาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมเสนอศาลฎีกาวินิจฉัย จนนำมาสู่วันนี้ ที่ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องในคดีนี้ .-สำนักข่าวไทย