กทม. 20 มี.ค.-“นิพนธ์” หวั่นพายุฤดูร้อนทำบ้านเรือนเสียหาย สั่งเร่งช่วยเหลือทันทีหากเกิดสถานการณ์ ห่วงประชาชนไร้ที่อยู่-ขาดอาหาร กำชับท้องถิ่นสำรวจความแข็งแรงของป้ายโฆษณา
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่ส่งผลกระทบในช่วง 2-3 วันนี้ ว่า ตามที่ได้มีการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบในช่วงระหว่างวันที่ 21-22 มี.ค. นี้ โดยจะเกิดเป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง สลับกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าที่รุนแรงในบางจุด สำหรับพื้นที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคใต้ตอนบน ตามลําดับ
ทั้งนี้ การเตรียมรับมือสถานการณ์นั้น กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดโดยประสานความร่วมมือไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทุกเขต ให้บูรณาการความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชน ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่สิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า และในส่วนของพี่น้งประชาชนที่เป็นเกษตรกร ควรหาทางป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหาย และระมัดระวังอันตรายจากฟ้าผ่าอีกด้วย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ในช่วงเดือนก.พ. ถึง พ.ค. ของทุกปีประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นเกิดสถานการณ์พายุฤดูร้อนอยู่เป็นประจำ ความเสียหายมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละพื้นที่ ซึ่งการเตรียมการก็ได้มีการสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ ปภ. ให้มีการประสานการเตรียมการช่วยเหลือร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนในจุดที่เกิดพายุ เนื่องจากบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนอาจถูกกระแสลมกรรโชกแรงพัดหลังคา และทำให้บ้านเรือนเกิดความเสียหาย และจำเป็นต้องอพยพพี่น้องประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ซึ่งในส่วนนี้ทั้ง กิ่งกาชาด ปภ. และท้องถิ่นก็ต้องเข้าไปเยี่ยมเยียนดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่อง การจัดเตรียมที่พักพิงชั่วคราว อาหารน้ำดื่ม ระบบสุขอนามัยต่างๆ เพื่อการบรรเทาทุกข์เบื้องต้น”
นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า”กรมปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการวิเคราะห์และประเมินปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อการประสานและบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น หน่วยงานภาคี เครือข่ายอาสาสมัคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างป้ายโฆษณาต่างๆ ให้เข้าไปสำรวจความแข็งแรง เพราะอาจเกิดปัญหาเมื่อมีกระแสลมพายุที่รุนแรงได้ พร้อมทั้ง การเตรียมพร้อมในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์และแผนเผชิญเหตุ โดยประการสําคัญยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการแจ้งเตือน ประชาชนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น การสร้างการรับรู้ในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน เป็นต้น รวมทั้ง การเปิดช่องทางในการแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784″ Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย”.-สำนักข่าวไทย