ศปถ.รายงาน 10 วันอันตรายปีใหม่ รวม 9 วัน ตาย 393 ราย

ปภ. 5 ม.ค. – ศปถ. รายงาน 10 วันอันตรายปีใหม่ รวม 9 วัน เสียชีวิต 393 ราย บาดเจ็บ 2,251 คน 4 ม.ค. เกิดอุบัติเหตุ 164 ครั้ง “ตรัง” ครองแชมป์ ทั้งสถิติอุบัติเหตุ-เสียชีวิต พบสาเหตุขับรถเร็วเกินกำหนด-ตัดหน้ากระชั้นชิด-ดื่มแล้วขับ


นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 4 ม.ค. 2568 ในช่วง 10 วันอันตราย ต่อเนื่องเป็นวันที่ 9

นายดนุชา กล่าวว่า จากที่รัฐบาลมีการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ ถือเป็นช่วงคุมเข้มวันที่ 27 ธ.ค. 2567-5 ม.ค. 2568 ภายใต้การขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา


โดยสถิติสะสมรวม 9 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567-4 ม.ค. 2568 เกิดอุบัติเหตุ 2,322ครั้ง บาดเจ็บ 2,251 คน ซึ่งข้อมูลอุบัติเหตุในวันที่ 4 ม.ค. 2568 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 169 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 164 คน เสียชีวิต 23 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ตรัง จำนวน 11 ครั้ง รองลงมาเป็น จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 8 ครั้ง จ.น่าน ปราจีนบุรี เชียงราย และแพร่ จำนวน 7 ครั้ง

จำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ที่ จ.ตรัง นราธิวาส อุตรดิตถ์ และนครปฐม จังหวัดละ 2 ราย ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บที่แอดมิดเข้าสู่การรักษาในโรงพยาบาล สูงสุดที่ จ.ตรัง จำนวน 11 ราย รองลงมาเป็น จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 9 ราย จ.ปราจีนบุรี จำนวน 8 ราย จ.เชียงราย และน่าน จังหวัดละ 7 ราย

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากข้อมูลสันนิษฐานว่ามาจากการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 63 ครั้ง มีการตัดหน้ากระชั้นชิด 40 ครั้ง ทัศนวิสัยไม่ดีประมาณ 30 ครับ ดื่มแล้วขับ 26 ครั้ง


สำหรับประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 145 คัน รองมาเป็นรถเก๋ง 6 คัน รถปิกอัพ รถกระบะ รถจักรยาน อย่างละ 5 คัน

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย แบ่งเป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 ราย เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล 1 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 8 ราย โดยมีมูลเหตุสันนิษฐานว่าขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด 11 ราย มีพฤติกรรมเสี่ยงคือไม่ส่งหมวกนิรภัย 7 ราย โดยผู้เสียชีวิตจากยานพาหนะสูงสุดเป็นรถจักรยานยนต์ 17 ราย รถเก๋ง 3 ราย พบพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ 547 คน มีผู้ขับขี่ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 3,687 คน มีการขับขี่โดยไม่สวมหมวกนิรภัย 10,469 คน

นายดนุชา ย้ำว่า ในช่วงวันนี้จะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยตนมอบหมาย 4-5 เรื่อง ได้แก่ 1.ขอให้ทางจังหวัดเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการอย่างเข้มข้น จริงจังและต่อเนื่อง ให้ความสำคัญในการบริหารจุดบริการประชาชน จุดพักรถ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน

2.ขอให้อำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวที่ยังตกค้างในสถานีในจังหวัดต่างๆ ให้สามารถเดินทางสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย 3.ขอให้ทางจังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อติดตามและตรวจสอบข้อมูล 4.ขอให้จังหวัดสร้างการรับรู้ถึงพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิต 5.ขอให้ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้เกี่ยวกับการขับขี่สาธารณะ ในพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%