fbpx

กำชับเตรียมรับมือภัยแล้ง-ฤดูฝน

ทำเนียบรัฐบาล 15 มี.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมบริหารจัดการน้ำ กำชับเข้มปฏิบัติตามมาตรการรับมือภัยแล้ง-ฤดูฝน พร้อมเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาลุ่มน้ำเจ้าพระยาเค็ม


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และนายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้เหลือช่วงเวลาฤดูแล้งอีก 2 เดือนคือเดือนมีนาคมและเมษายน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน การประชุมวันนี้(15 มี.ค.) จึงติดตามสถานการณ์น้ำและการดำเนินงานตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2563/64 ควบคู่ไปกับการพิจารณามาตรการรับมือในฤดูฝนปี 2564 ด้วย

พล.อ.ประวิตร กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2563/64 อย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในช่วงปลายฤดูแล้ง นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด 9 มาตรการรองรับสถานการณ์ฤดูฝน ปี 2564 ประกอบด้วย 1.การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และฝนทิ้งช่วง 2.บริหารจัดการพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อใช้รองรับน้ำหลาก 3.ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ ขนาดใหญ่ – กลางและเขื่อนระบายน้ำ


4.ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคารชลศาสตร์ /ระบบระบายน้ำ สถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน 5.ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ 6. ขุดลอกคูคลองกำจัดผักตบชวา 7.เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือในการ ให้ความช่วยเหลือ 8. สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ และ 9.ติดตามประเมินผล โดยมอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบนำมาตรการไปจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศช่วงต่อจากนี้ พบว่าเดือนมีนาคมนี้ปริมาณฝนรวมของประเทศส่วนใหญ่ใกล้เคียงค่าปกติ ยกเว้นบริเวณภาคเหนือ จะมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 20 และภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีปริมาณฝนรวมต่ำกว่าค่าปกติร้อยละ 10 ส่วนเดือนเมษายนคาดว่าปริมาณฝนรวมจะสูงกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 20

“ที่ประชุมวันนี้ติดตามการดำเนินงานตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2563/64 ซึ่งมีผลการดำเนินการที่สำคัญ อาทิ การเร่งเก็บน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ พบว่าตั้งแต่ 1 พ.ย.63 – 28 ก.พ.64 กักเก็บได้เพิ่มขึ้น 2,947 ล้านลบ.ม. 2. การจัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบเพื่อป้องกันผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ ซึ่งพบว่า ในเขตการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ยังไม่มีสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ขณะที่นอกเขตกปภ. มีพื้นที่เฝ้าระวังขาดแคลนน้ำ 42 จังหวัด 22 อำเภอ 41 ตำบล พบว่ามีพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มอีก 2 จังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์และจ.ลำปาง” นายสำเริง กล่าว


นายสำเริง กล่าวว่า การจัดสรรน้ำฤดูแล้งจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ปัจจุบัน จัดสรรน้ำไปแล้วทั้งสิ้น 8,269 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 71% ตลอดทั้งฤดูแล้ง โดยจัดสรรน้ำเป็นไปตามแผน 15 แห่ง และจัดสรรน้ำเกินแผน 16 แห่ง ทั้งนี้ แผนงานโดยส่วนใหญ่หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเป็นไปตามแผน ซึ่งที่ประชุมมีข้อห่วงใยเรื่องแผนการวางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง พบว่ามีการปลูกทั้งในเขตและนอกเขตมากกว่าแผน 2.97 ล้านไร่ จากเป้าหมายทั้งประเทศ 8.88 ล้านไร่ ซึ่งเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนปฏิบัติการการจัดสรรน้ำให้ชัดเจน ต้องควบคุมอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อน้ำต้นทุนฤดูฝน รวมถึงมาตรการเสริมที่จะไม่ให้ขยายพื้นที่เพาะปลูกต่อเนื่องด้วย

“สำหรับการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ที่ผ่านมาได้ติดตามทั้ง 4 แม่น้ำสายหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเค็มไม่ให้ส่งผลกระทบตลอดแล้งนี้ ซึ่งที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณสถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานีทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามผลการดำเนินงานสิ่งกีดขวางทางน้ำทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานจัดทำแผนการปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำก่อนเข้าสู่ฤดูฝนปีนี้ และรายงานให้สทนช. ทราบเป็นระยะต่อไป” นายสำเริง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง