กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-อธิบดีพช.เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ “ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” ย้ำทุกจังหวัดต้องต่อเนื่อง โปร่งใส ยึดอุดมการณ์พัฒนาชุมชน สร้างสุขให้ประชาชนยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ “ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” โดยมีนางวิไลวรรณ ไกรโสดา นายนิวัติ น้อยผาง นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน น.ส.นิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน นางชยาณี มัจฉาเดช ผู้อำนวยการกองคลัง นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ และน.ส.มนทิรา เข็มทอง ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานแผนและยุทธศาสตร์ สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (Video Conference) ไปยังสำนักงานพัฒนาชุมชนทุกจังหวัด ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่ง ณ ห้องวอร์รูม ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานและพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่าง ๆ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงนำแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพสกนิกร สะท้อนจากโครงการตามพระราชดำริ อาทิ พระราชดำรัสให้ก่อตั้งศูนย์ฝึกศาสตร์พระราชา ภายในบริเวณพื้นที่ของกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ โครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ ทรงชื่นชมและพระราชทานกำลังใจผ่านภาพวาดฝีพระหัตถ์ “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” แก่พสกนิกรชาวไทยและกรมการพัฒนาชุมชน
“การดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ “ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” จึงถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำคัญในการสนองงานตามพระราชปณิธาน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังจากหลากหลายฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือรัฐบาลที่อนุมัติงบประมาณกว่า 4700 ล้านบาทภายใต้งบเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และงบประมาณในปี 2564 ซึ่งเป็นต้นทุนที่พวกเรา กรมการพัฒนาชุมชนต้องร่วมกับขับเคลื่อนให้สำเร็จเป็นจริง คุ้มค่าตามที่ได้รับความไว้วางใจ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ความคาดหวังจากประชาชน ภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีที่เต็มใจเข้าร่วมโครงการ ด้วยหวังจะร่วมก่อให้เกิดสิ่งที่ดีในชีวิต สังคม และเศรษฐกิจ ทุกความคาดหวังจึงเป็นเป้าประสงค์ที่ต้องบรรลุถึง ซึ่งนัยสำคัญของโครงการนี้คือการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทุกภาคส่วนแม้แต่ข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชนเองต้องได้รับการพัฒนาและเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ให้เกิดพื้นที่ต้นแบบตามหลักกสิกรรมธรรมชาติและภูมิสังคม สอดรับกับภารกิจการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ยั่งยืน การดำเนินงานตามโครงการนี้จึงเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก การติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนบูรณาการองค์ความรู้และสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนให้ความสำคัญกับนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ โดยจะขยายสัญญาจ้างจากระยะ 9 เดือน เป็น 12 เดือนหรือ 1 ปี ขณะนี้มีแนวทางพยายามให้เกิดสวัสดิการคุ้มครองช่วยเหลือด้านความปลอดภัยในชีวิตสำหรับนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบที่ยังไม่ผ่านการฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ทำให้ต้องปรับแผนการอบรม จึงขอให้ทุกจังหวัดที่ยังสามารถดำเนินการได้ มีแผนการฝึกอบรมที่เหมาะสม อาทิ การปรับลดกลุ่มเป้าหมาย ใช้มาตรฐาน SHA หรือมาตรการของ ศบค.โดยเคร่งครัด ขณะนี้จังหวัด อำเภอ ต้องเป็นพี่เลี้ยงคอยกำชับถึงบทบาทภารกิจของนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ส่งเสริมให้พวกเขารู้จริงทำจริง Learning by Doing และต้องให้พวกเขาแสดงความรู้ความเข้าใจออกมาในเชิงประจักษ์ด้วยการจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ และง่ายที่สุดคือการส่งเสริมให้ลงมือปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งจะสร้างคุณประโยชน์ 2 ทาง คือ การปลูกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเพาะปลูกเพื่อขยายพันธุ์พืช ต่อไป
“ในส่วนของการจัดหาครุภัณฑ์หรือวัสดุทางการเกษตรที่ใช้ในการดำเนินโครงการ ขอกำชับให้ทุกจังหวัดส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นชุมชนให้มากที่สุด โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางถึงขนาดย่อมในท้องถิ่นเป็นลำดับแรก โดยประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ขอให้ช่วยกันมุ่งมั่น ทุ่มเท เอาใจใส่ ไม่ยึดหรือถือเอาความเป็นราชการในตัวจนเกินไป ดำเนินการทุกอย่างโดยรอบคอบ ศึกษา ยึดระเบียบ กฎหมายให้เกิดความโปร่งใสในทุกกระบวนการอย่างสูงสุด การประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจ เน้นย้ำทบทวนรายละเอียด ติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการของทุกจังหวัด เพื่อถอดบทเรียน ต่อยอด สร้างผลสัมฤทธิ์ให้เกิดแก่พี่น้องประชาชน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว
นายพิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่รุนแรงเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ในประเทศไทย ส่งผลให้ต้องปรับแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้ดำเนินการในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2563 – พฤศจิกายน 2564 ซึ่งได้นำเสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา
“แม้ว่าห้วงเวลาของทั้ง 7 กิจกรรมจะได้รับการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ต้องคงหลักการวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนและส่งเสริมการพัฒนาพลิกฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ชุมชน ผ่านการสร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบและพื้นที่เรียนรู้ครัวเรือนต้นแบบ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร แรงงาน และบัณฑิตจบใหม่ กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับภูมิลำเนา สร้างและส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนพัฒนายกระดับมุ่งไปสู่การจัดตั้งบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคมในระดับตำบล” นายพิเชฐ กล่าว
นายพิเชษฐ กล่าวว่า ขอเน้นย้ำว่าการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมทั้ง 7 ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น อย่าข้ามขั้นตอน ยกเว้นการดำเนินการในกิจกรรมที่ 2 คือ การสร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (CLM) และระดับครัวเรือน (HLM) ที่ให้ครัวเรือน ตำบลดำเนินการไปก่อนได้ เนื่องจากตามแนวทางเดิม การปรับปรุงพื้นที่ต้นแบบตัวแทนครัวเรือน และตำบล ต้องผ่านการฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้น การพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ตามลำดับกิจกรรมที่ 1 ก่อน แต่เพื่อเป็นการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนา 2019 (COVID-19) การฝึกอบรมจึงต้องปรับแนวทาง หรือเลื่อน เพื่อให้ไม่กระทบต่อการปรับปรุงพื้นที่ที่ต้องดำเนินการตามแบบอย่างรอบคอบ
“การดำเนินการในกิจกรรมที่ 2 ยังเกี่ยวข้องกับฤดูกาลที่อาจเป็นอุปสรรค จึงสามารถดำเนินการไปก่อนในห้วงเดือนธันวาคม 2563-พฤษภาคม 2564 เพื่อให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนในเดือนมีนาคม ซึ่งการสร้างพื้นที่ต้นแบบ กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ในการพัฒนา Platform และฐานข้อมูลของ 337 แปลง พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (CLM) เพื่อเป็นการวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการดำเนินการในบริบท โคก หนอง นา โมเดล” นายพิเชษฐ กล่าว
นางวรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กลไกหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ “ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” คือ นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ที่คาดหวังให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ แก่เกษตรกร แรงงาน และบัณฑิตจบใหม่ โดยให้คนเหล่านี้เรียนรู้และน้อมนำองค์ความรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ นำไปใช้จริงให้เกิดรูปธรรม ทั้งในพื้นที่ต้นแบบและในชีวิตต่อไป จึงไม่ได้มองว่าคนกลุ่มนี้อยู่ในฐานะลูกจ้างหรือคนงาน แต่เป็นผู้มีอุดมการณ์ในการพัฒนา จึงขอฝากให้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอร่วมดูแล กระตุ้น สื่อสารให้คนกลุ่มนี้ใช้ความรู้ความสามารถดำเนินการร่วมกับครัวเรือน ตำบลอย่างแท้จริง ตามภารกิจตามความตั้งใจ ซึ่งนอกจากการให้นพต.เหล่านี้ร่วมคิด ร่วมทำ ในพื้นที่ของพวกเขาแล้วควรนำพวกเขาศึกษา เรียนรู้ในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เพราะในอนาคตคนเหล่านี้ที่จะอาสามาเป็นเพื่อนคู่คิดกับพัฒนากร ต่อยอดงานพัฒนาชุมชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย