“ดงครั่งน้อย” ร้อยเอ็ด งานดีคว้าตำแหน่ง “ดีเลิศ”

กทม. 8 ก.ค.-พช.ประกาศผลสุดยอดผู้นำการเปลี่ยนแปลง 2564 “ดงครั่งน้อย” ร้อยเอ็ด งานดีคว้าตำแหน่ง “ดีเลิศ” รับ 1 ล้านบาท ต่อยอดเสริมแกร่ง สร้างพลังชุมชน ใช้พลังชุมชนในการพัฒนาชุมชน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างผู้นำชุมชน โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถของผู้นำชุมชน เพื่อกลไกในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในทุกระดับ เป็นกำลังหลักในการ “คิด ทำ นำ เปลี่ยน” สร้างพลังชุมชน ใช้พลังชุมชนในการพัฒนาชุมชน ผ่านโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อบ่มเพาะพลังและความสร้างสรรค์ ในบริหารจัดการ กำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชน ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องในบริบทและภูมิสังคม ที่เห็นถึงรูปธรรมของการขับเคลื่อนภายใต้คติพจน์ (Motto) ว่า “1 หมู่บ้าน สามารถดูแลได้ทั้งตำบล สร้างความมั่นคงทางอาหาร บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จากผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ 1,000 ตำบล โดย ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดกิจกรรมคัดเลือกผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับดีเลิศอย่างเข้มข้น จากผู้นำ 76 จังหวัด คัดเลือกสู่รอบดีเด่น 18 ตำบล ใน 18 เขตตรวจราชการ และค้นหา the best of the best เพียง 1 ตำบลต้นแบบ หนึ่งเดียวระดับประเทศ โดย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาชุมชน ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาคี จำนวน 11 ท่าน อาทิ ดร.นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ท่านที่ 17 ,นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ,พลตรีนพดล ปิ่นทอง รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ,นายคณิต ธนูธรรมเจริญ ข้าราชการบำนาญ ข้าราชการพลเรือนในสังกัดสำนักพระราชวัง ,นายบรรหาญ เนาวรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู ,รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นต้น ตัดสินให้ ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด รับรางวัลเชิดชูเกียรติผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเลิศ และรับงบประมาณสนับสนุน 1,000,000 บาท เพื่อนำไปต่อยอดเสริมความเข้มแข็ง ชุมชน ตำบล บูรณาการงานเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน


กุญแจแห่งความเป็นเลิศของ ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ใน 193 ตำบล ของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นชุมชนแห่งการผลิตหอมมะลิอินทรีย์ ชั้นดีของโลก ที่มีทุนในชุมชนหลากหลาย ทั้ง ทุนมนุษย์ ทุนเงิน ทุนธรรมชาติ ทุนสังคม ทุนภายภาพ โดยนำทุนเหล่านี้มาเป็นปัจจัยในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้นำชุมชนร่วมกับประชาชน ภาคีเครือข่าย ได้ดำเนินการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน โดยยึดหลักการพัฒนา บวร (บ้าน วัด ราชการ) บรม (บ้าน ราชการ มัสยิด) ครบ (คริสต์ ราชการ บ้าน) ใช้พลังชุมชนในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชน โดยผู้นำชุมชนทำก่อนเป็นต้นแบบ แล้วขยายผลไปทุกครัวเรือน จนเกิดผลสำเร็จใน 3 ด้าน โดยริเริ่มจาก ด้านสร้างความมั่นคงทางอาหาร ในกิจกรรมขยายพื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษ พิชิตโควิด – 19 และไม้ผลในบริเวณบ้านมากกว่า 10 ชนิด ที่ 1,755 ครัวเรือน หรือ 100% ของครัวเรือนในตำบลดงครั่งน้อย ทำให้ลดรายจ่ายได้อย่างน้อย 50 บาทต่อวัน และนำผลดีดังกล่าวขยายผลจากรอบรั้วบ้านตนเอง สู่การปลูกในพื้นที่สาธารณะรอบหนองน้ำ บริเวณพื้นที่ทำการเกษตรแบบผสมผสานตามหัวไร่ปลายนา ในรูปแบบแปลงรวม ทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ครัวเรือนละ 500 – 1,000 บาทต่อเดือน จากผลผลิตสด และแปรรูป อาทิ น้ำผัก/ผลไม้เพื่อสุขภาพ สลัดโรล โดนัทจากแป้งข้าวหอมมะลิ สบู่ข้าวหอมมะลิ เป็นต้น นอกจากการสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้แล้ว ยังก่อเกิดประโยชน์สาธารณะ ทั้ง 13 หมู่บ้านร่วมสร้างแหล่งอาหารด้วยการปลูกผักริมถนน 1 หมู่บ้าน 1 ถนนกินได้ ,ปลูกผักในวัด 8 แห่ง ,โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 10 แห่ง ,องค์การบริหารส่วนตำบลดงครั่งน้อย และสานต่อความมั่งคงในทุกหมู่บ้านด้วยการจัดตั้งธนาคารเมล็ดต้นกล้าพืชผัก

สำหรับในด้านการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ชาวตำบลดงครั่งน้อยทุกครัวเรือน มีการจัดสุขลักษณ์ การปรับสภาพภูมิทัศน์ ควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดย การบริหารจัดการขยะ กิจกรรมทำถังขยะเปียกรักษ์โลก ธนาคารขยะ การจัดสุขลักษณะในบ้านให้น่าอยู่ ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรม “เดือนละวันฉันและเธอ เป็นการร่วมกันพัฒนาหมุนเวียนไปทุกหมู่บ้าน” อาทิ การปรับสภาพภูมิทัศน์หมู่บ้าน ,การปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะ ตลอดจนการเปิดโอกาสในทุกครัวเรือนร่วมวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การปลูกป่าในที่สาธารณะ การดูแลรักษาแหล่งน้ำลำคลอง การใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานสะอาด นำน้ำมาใช้ในพื้นที่เกษตรอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นการประยุกต์การพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน BCG Model คือ การใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Bio Economy) เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คำนึงถึงการนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 นี้อยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาสังคมได้อย่างสมดุล


ในส่วนของการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม นับสิ่งที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของสิ่งที่เกิดขึ้นข้างต้น โดยอาศัยการปฏิบัติศาสนกิจสำคัญทางศาสนาทุกครัวเรือน รณรงค์“งานบุณ งานเศร้า ปลอดหล้า ปลอดบุหรี่” “ฮีตสิบสอง คองสิบสี่” ยึดขนบธรรมเนียม ประเพณี ภูมิปัญญาที่งดงาม ทั้ง 12 เดือน เป็นการผสมผสานพิธีกรรมความเชื่อ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน ยึดเหนี่ยวให้คนในชุมชน มีความรัก ความเอื้ออาทร ผนึกกำลังเป็นเอกภาพ อีกทั้ง การต่อยอดนำผลผลิต พืช ผักสวนครัวจากทุกครัวเรือน รวมทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค ตามกำลังศรัทธา นำมาร่วมจัดกิจกรรม “ปันรัก ปันสุข” 1 ครั้ง ทุกสัปดาห์ ทุกหมู่บ้าน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูล คนในชุมชน คนยากไร้ กลุ่มเปราะบางในสังคม บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนามร้อยเอ็ด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) อีกด้วย เหล่านี้เป็นความสำเร็จส่วนหนึ่ง จากพลังของผู้นำชุมชนในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ร่วมกับชาวตำบลดงครั่งน้อย ได้บูรณาการกับทุกภาคีเครือข่าย ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมพัฒนา ร่วมติดตามอย่างครบวงจรในการขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ทำให้วันนี้ตำบลดงครั่งน้อย มีความมั่นคงทุกด้านนำไปสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแท้จริง

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแสดงความยินดี และชื่นชมในความเพียรพยายามสร้างสรรค์ชุมชนให้เข้มแข็งด้วยความรู้ คู่คุณธรรม สำหรับตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้รับการชูเกียรติผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับดีเลิศ รวมตลอดถึงระดับดีเด่น 17 ตำบล และพื้นที่เป้าหมายทั้ง 1,000 ตำบล 15,000 คน ทั่วประเทศ ความสำเร็จของโครงการนี้นอกจากการเชิดชูเกียรติ สร้างแรงจูงใจต่อการขับเคลื่อนงาน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น Change for Good แล้ว ยังมีนัยยะถึงการเสริมสร้างพลังบวกพัฒนาผู้นำ โดยคุณค่าวัดจากความสุขที่สมดุลและยั่งยืนใน 4 มิติ เป็นอย่างน้อย ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาความยากจน พัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นเวทีสรุปผลการดำเนินงาน และการประกวดผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเลิศ ผลงานการขับเคลื่อนเชิงคุณภาพดังกล่าว จะเป็นแบบอย่างในการถอดบทเรียนความสำเร็จ บนพื้นฐานของความสมดุลพอดี และความพอประมาณอย่างมีเหตุผล ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขยายผลเป็นแบบอย่างสร้างพื้นที่เป้าหมายทั้งหมดเป็นแหล่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และศูนย์แบ่งปันสร้างสรรค์นวัตกรรมชุมชน หนุนสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน อย่างเป็นรูปธรรมให้กระจายไปทั่วทุกตารางนิ้วของประเทศไทย ที่สำคัญอย่างที่สุด คือ การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ 17 ราย เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม”

15 พ.ค.- ออกหมายจับ 17 ราย วิศวกร – ผู้ควบคุมงาน – กิจการร่วมค้า เอี่ยวคดี “ตึก สตง.ถล่ม” เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 17 วิศวกร ผู้ควบคุมงาน ก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ หลังพนักงานสอบสวนนครบาล นำสำนวนพร้อมหลักฐานทั้งการนำสืบและการสอบปากคำพยานบุคคลรวมถึงพยานแวดล้อม เสนอศาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งการขออำนาจศาลออกหมายจับในครั้งนี้คณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำความผิด ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้ออกแบบและทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง มีบริษัทกิจการร่วมการค้า 3 […]

กรมอุตุฯ ประกาศเริ่มต้นฤดูฝนปี 2568 อย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องการเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ลงนามในประกาศฯ ดังกล่าว หลังจากพิจารณาองค์ประกอบตามเกณฑ์ทางอุตุนิยมวิทยา โดยระบุว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 3.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมมรสุมที่นำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 30 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาการเริ่มต้นฤดูฝน ทั้งนี้ ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีปริมาณฝนน้อย ก่อนที่ปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อมา โดยฤดูฝนของพื้นที่ประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก จะยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนมกราคมปีถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูฝนนี้อย่างเหมาะสม. -512–สำนักข่าวไทย

ยักยอกเงินวัด

ศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัดเล่นพนัน

15 พ.ค.- ศาลอาญาทุจริต อนุมัติหมายจับ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัด เล่นพนันออนไลน์ จากกรณีมีการตรวจสอบพบ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม หรือ เจ้าคณะภาค 14 กระทำการทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญขีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท ก่อนที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พระธรรมวชิรานุวัตร จะชิงเดินทางมาขอเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. นำพยานหลักฐานเข้ายื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอออกหมายจับ พระธรรมวชิรานุวัตร ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ จากพนักงานสอบสวนแล้ว มีความเห็นควรให้อนุมัติการออกหมายจับอย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างนำหมายจับมาแสดงต่อพระธรรมวชิรานุวัตร […]

นายกฯ เดินทางถึงกรุงฮานอย เวียดนาม

เวียดนาม 15 พ.ค.-นายกฯ เดินทางถึงกรุงฮานอย เวียดนาม เตรียมพบภาคเอกชนไทย-เวียดนาม ขยายการค้า-การลงทุน วันนี้ (15 พ.ค. 2568) เมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบไปด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายเหวียน วัน หุ่ง (H.E. Mr. Nguyen Van Hung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม […]