อธิบดี พช. ลงพื้นที่โคราช รวมพลัง อช. สานต่อศาสตร์พระราชา

นครราชสีมา 29 ม.ค.-อธิบดี พช. ลงพื้นที่โคราช รวมพลัง อช. สานต่อศาสตร์พระราชา พัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน เนื่องในวาระครบรอบ 52 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน


วันที่ 29 มกราคม 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี กิจกรรม “รวมพลัง อช. สานต่อศาสตร์พระราชา พัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน” เนื่องในวาระครบรอบ 52 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน และเปิดมหกรรมแสดงผลสำเร็จ การสร้างวัฒนธรรมปลูกผักประจำครัวเรือน โครงการของขวัญปีใหม่ “มท. สร้างสุข (Happy Creation)” โดยมีพระครูภัทรธรรมโฆษิต เจ้าคณะตำบลหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา นายเดชฤทธิ์ ถิตย์ฉาย นายอำเภอห้วยแถลง หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครราชสีมา พัฒนาการอำเภอทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ประธานชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน จากทุกอำเภอในจังหวัดนครราชสีมา ผู้นำชุมชน กลุ่ม องค์กร เครือข่ายของอำเภอห้วยแถลง ร่วมกิจกรรมฯ ณ วัดหลุ่งประดู่ ตำบลหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา

ในการนี้ได้จัดให้มีกิจกรรม อ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การมอบเกียรติบัตรแก่ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนผู้มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2563 การแสดงพลังผู้นำ อช. ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และกล่าวคำปฏิญาณของผู้นำ อช. กิจกรรมมหากรรมแสดงผลสำเร็จ “น้อมนำแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของกรมการพัฒนาชุมชน” และโครงการของขวัญปีใหม่ “มท. สร้างสุข (Happy Creation)” โดยจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับ ชมรมผู้นำ อช. มอบถุงยังชีพและเมล็ดพันธุ์ผักให้กับครัวเรือนยากจน จำนวน 32 ครัวเรือน มอบทุนอุปการะกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 20 ทุน ทุนละ 2,000 บาท ให้กับเด็กอายุ 0–6 ปี และมอบเงินช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านครัวเรือนยากจน จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 30,000 บาท คือ นายบุญทอง ปัตตาเนนะ บ้านเลขที่ 158 หมู่ที่ 11 ตำบลหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า เรื่องใหญ่ที่สำคัญ ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) ท่านทั้งหลายเป็นคือบุคคลในพื้นที่ที่มความสำคัญอย่างมาก ได้ช่วยเหลือสนองพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชประสงค์ที่แนวแน่ อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความรัก สังคมแห่งความสามัคคี มีความเสียสละ พระองค์จึงพระราชทาน โครงการ จิตอาสา 904 ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งตรงกับที่พี่ๆน้องๆ ได้ประพฤติปฏิบัติ เป็นผู้ที่มีจิตอาสา เป็นผู้เสียสละเพื่อส่วนร่วม เป็นผู้ที่ตั้งใจทำงาน และรับผิดชอบในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ตลอดทั้งขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน สู่ความสำเร็จก่อเกิดประโยชน์สุขของชุมชน ดุจเทียนไขละลายตน เพื่อให้แสงสว่างในความมืดมิดของบ้านเรือนของชุมชน ความเสียสละของพี่ๆน้องๆทุกคน เป็นสิ่งที่สังคมไทยเราขาดหาย สาเหตุเพราะว่าเรามุ่งพัฒนาเศรษฐกิจแบบตะวันตก วัดจากความมั่งคั่ง วัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ซึ่งอาจจะไม่ตอบสนองต่อความสมดุลในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งยั่งยืนอย่างแท้จริงได้ สิ่งที่สำคัญวันนี้ได้มาประชุมในที่นี้ เพื่อที่จะร่วมฉลองและรำลึกนึกถึงความเสียสละ ของผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) รุ่นพี่ เป็นการได้พบปะเพื่อเป็นการขอบคุณในปัจจุบัน เนื่องในวาระครบรอบ 52 ปี โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน เพื่อตอกย้ำว่าสิ่งสำคัญเกิดคุณประโยชน์กับชุมชน เพื่อนบ้านญาติมิตร กับ คนไทยด้วยกัน นั้นเป็นสิ่งที่สังคมต้องการ ซึ่งสอดคล้องโครงการ จิตอาสา 904 เปรียบเสมือนพระองค์ท่านมาเป็นมิ่งขวัญกำลังใจสำหรับผู้ที่เป็นจิตอาสา ทั้งที่ไปอบรมและไม่ได้ไปอบรมก็ตาม แต่มีพฤติกรรมเป็นจิตอาสา ขอให้ได้ภาคภูมิใจ ช่วยกันผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำท้องที่ พี่น้องๆ ร่วมพลังในการช่วยกันทำงานทำหน้าที่ ในการเป็นจิตอาสาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกัน

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน จากการพัฒนาเพื่อความมั่งคั่ง ทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ในปีนี้เราจะตั้งมั่นตามที่ ท่านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบสาร และแนวทาง “รวมพลัง อช. สานต่อศาสตร์พระราชาพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน” น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถนำไปเชิญชวนผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชนได้ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชา อันประกอบไปด้วย ทฤษฎีใหม่ ขับเคลื่อนผ่านผู้นำ ทั้งโครงการ น้อมนำแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของกรมการพัฒนาชุมชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) โครงการนี้สามารถช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชน มีความมั่นคงทางอาหาร โดยผู้นำต้องทำก่อน เพื่อเป็นแบบอย่าง ในสร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน และการดำเนินงาน รณรงค์ส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทยภูมิปัญญาของความเป็นไทย อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ดังพระปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน ตามพระดำริ การรณรงค์การร่วมใส่ผ้าไทย “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และได้ทรงพระราชทานแบบลายผ้า “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”แก่พสกนิกรทั่วประเทศ ผ่านกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อนำไปเป็นต้นแบบและพัฒนาต่อยอดสู่เครื่องแต่งกาย ตามเอกลักษณ์ประจำถิ่น เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน และภาคีเครือข่าย สนับสนุนการรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย จนเป็นมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา และกรมการพัฒนาชุมชนมีแนวทางการพัฒนา ส่งเสริมจังหวัดนครราชสีมา สู่การเป็น “ศูนย์กลางเส้นไหม” ด้วยการสนองพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการอนุรักษ์รักษาคุณภาพผ้าไหมแท้ๆ และการใช้สีจากธรรมชาติ เป็นการอนุรักษ์และพัฒนาผ้าไทย กระตุ้น ส่งเสริม ให้พี่น้องประชาชนได้รักและห่วงแหนในภูมิปัญญาผ้าไทย สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และที่สำคัญ การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาดำเนินชีวิต ในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” อันเป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชาในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ด้านนายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และคณะ ที่ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในการจัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนการรณรงค์ ส่งเสริมให้ปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน โดยเริ่มจากผู้นำในจังหวัดและขยายผลสู่ระดับครัวเรือน ทั้ง 32 อำเภอ ส่งเสริมการใส่ผ้า โดยจังหวัดนครราชสีมากำหนดให้ข้าราชการได้สวมใส่ผ้าไทยทุกวันพุธและวันศุกร์ เป็นการส่งเสริมและอุดหนุน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ประเภทผ้า สามารถจำหน่ายผ้าไทยได้เป็นจำนวนมาก และการส่งเสริมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ อันเป็นการพัฒนารากฐานของชุมชน ของประเทศได้อย่างยั่งยืน


“กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณ อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) และผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ร่วมถึงผู้นำท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน เนื่องในวาระครบรอบ 52 ปี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน 28 มกราคม 2564 ในวันนี้ได้นำความปรารถนาดี จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา กับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้การนำของขวัญปีใหม่มอบให้กับพี่ๆน้องๆ ทั้งกิจกรรมแบ่งปันความมั่นคงทางอาหาร มอบถุงยังชีพและเมล็ดพันธุ์ผัก มอบทุนอุปการะกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มอบเงินช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านครัวเรือนยากจน ก็ดี แม้จะเป็นส่วนเสี้ยวเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและมีน้ำใจ การจัดโครงการของขวัญปีใหม่ “มท.สร้างสุข (Happy Creation)” ครั้งนี้จะเป็นเสมือนประกายไฟ จุดสว่างอยู่ในดวงใจของพี่น้องทุกคน ในการที่จะทุ่มเท เสียสละในฐานะ ผู้นำ อช. ด้วยความเข้มแข็ง ความเสียสละ เพิ่มพูนพลังกายพลังใจ ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับภาคีเครือข่าย อันประกอบไปด้วยผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ หน่วยราชการ ผู้นำทางศาสนา ผู้นำทางการศึกษา ผู้นำสื่อสารมวลชน และผู้นำภาคประชาชน ให้เพิ่มพูนมากขึ้น ให้สมกับที่พวกเราทุกคนเป็นจิตอาสา 904 โดยพฤตินัย ตามพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]