fbpx

ปชป.ร้อง กกต.ยุติสอบคดี 9 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

กกต. 24 พ.ย.-ปชป.ร้อง กกต.ยุติสอบคดี 9 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ เพราะข้อเท็จจริงเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วว่าไม่ผิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 พ.ย.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีหุ้นสื่อ ส.ส.ปชป. ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ยุติการสอบสวนคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ยื่นขอให้ กกต.วินิจฉัยว่า ส.ส. 9 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ถือครองหุ้นหรือเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อ ที่เป็นเหตุให้สมาชิกสภาพความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ส.ส.ปชป.ไม่มีความผิดในเรื่องดังกล่าว

นายราเมศ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีกล่าวหา ส.ส.ถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของในกิจการสื่อสารมวลชน ขณะนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งเหตุผลในคำวินิจฉัยระบุไว้ชัดเจนว่าเหตุใดบ้างที่ไม่ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และคำวินิจฉัยดังกล่าวผูกพันทุกองค์กร รวมถึง กกต. ที่หากนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาเทียบเคียงเพื่อประกอบการสอบสวน การยุติการสอบสวนก็จะเป็นผลดีทำให้ไม่ซ้ำซ้อนกัน


“คำร้องที่ กกต.สอบสวนอยู่ มีข้อเท็จจริงเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า 3 ส.ส.ปชป.ไม่ผิด ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เป็นการสร้างภาระในการถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อน จึงมายื่นขอให้มีมติยุติการสอบสวนเรื่องดังกล่าว” นายราเมศ กล่าว

สำหรับ 9 ส.ส.ปชป.ที่ถูกนายเรืองไกรร้อง กกต.ประกอบด้วย 1.นายประกอบ จิรกิติ
2.น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร 3.คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช 4.นายประมวล พงศ์ถาวราเดช 5.นายวีระชัย วีระเมธีกุล 6.นายชัยชนะ เดชเดโช 7.นายเกียรติ สิทธิอมร 8.นายสมชาติ ประดิษฐพร และ 9.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ซึ่ง 3 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผิด คือ นายสมชาติ , น.ส.จิตภัสร์ และ น.ส.วชิราภรณ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME