รัฐสภา 2 ก .ย. – “สันติ” พร้อมนั่งขุนคลังแทน “ปรีดี ดาวฉาย” ยันมีความเชี่ยวชาญ ทนแรงกดดันได้ ปัดขัดแย้ง เชื่อเหตุลาออกเพราะสุขภาพและความกดดันในการทำงาน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วานนี้ (1 ก.ย.) โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น ยอมรับว่าภาพการทำงานอาจจะดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่ตนเป็นเพียงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แบ่งภาระการทำงานกันอย่างชัดเจน เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนที่มีปัญหาเรื่องความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารในกระทรวงนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่นายปรีดีเสนอ
“เมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) นายปรีดีได้โทรมาขอโทษถึงการลาออก จนทำให้มีข่าวออกมาในทำนองขัดแย้งกัน และนายปรีดียังได้ขอบคุณการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา และเห็นว่าผมสามารถนำประสบการณ์ในฐานะรัฐมนตรีช่วยฯ ตลอด 1 ปี มาเป็นประโยชน์ในการทำงานได้อย่างมาก” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวว่า การทำงานระหว่างตนกับนายปรีดี ที่ผ่านมาไม่มีความขัดแย้งกัน แต่ด้วยปัญหาทางสุขภาพที่นายปรีดีเคยบอกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดในสมองเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันได้รักษาหายแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกชาในหลายๆ จุด ประกอบกับแพทย์ขอให้ลดความเครียดลง
“นายปรีดีมีปัญหาความกดดันในการทำหน้าที่ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ต้องสร้างนโยบายใหม่ๆ และทุกโครงการ ทุกปัญหา ก็ถาโถมมาที่กระทรวงการคลังเป็นหลัก ดังนั้น คนเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ต้องเป็นคนที่มีความแข็งแกร่ง และต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ดังนั้น การที่นายปรีดีต้องมาเจอเรื่องให้คิดตลอด 24 ชั่วโมงแบบนี้ ก็อาจส่งผลต่อปัญหาด้านสุขภาพได้” นายสันติ กล่าว
ส่วนที่มีการมองว่าเป็นเพราะปัญหาทางการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสันติ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหา ขณะที่รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามา เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจ ว่าจะให้เป็นคนนอก หรือคนของพรรค แต่ส่วนตัวเห็นว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ต้องเป็นคนที่รู้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งภายในและของโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอบมาในลักษณะนี้พร้อมเป็นรัฐมนตรีแทนนายปรีดีใช่หรือไม่ นายสันติ ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี แต่หากนายกรัฐมนตรีมอบหมายก็น้อมรับ เพราะตนก็มีความเชี่ยวชาญ เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อ 10 ปีก่อน และเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกทั้ง ทำงานในช่วงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถึง 2 คน ทำให้ได้ซึมซับเรียนรู้ถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่สามารถทำงานได้เลยทันที และไม่มีปัญหาความกดดัน เพราะทำงานในกระทรวงนี้มา 1 ปี จึงมีภูมิต้านทานที่จะรับแรงกดดันในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้.- สำนักข่าวไทย