fbpx

ครม.อนุมัติโครงการเยียวยาชาวสวนลำไย 3,400 ล้านบาท

ระยอง 25 ส.ค. –รองโฆษกรัฐบาล เผยที่ประชุม ครม.อนุมัติโครงการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี63 วงเงิน 3,400 ล้านบาท และอนุมติโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ในเขต EEC


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติโครงการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปีการผลิต 2563 เพื่อดูแลชาวสวนลำไยจำนวน 2 แสนครัวเรือน ภายใต้กรอบวงเงิน 3.4 พันล้านบาท โดยแนวทางการช่วยเหลือ จะใช้เงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2563 โดยจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเกษตรกรผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นชาวสวนที่ขึ้นทะเบียนปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 การอนุมัติครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และการระบาดของโควิด-19 จนทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังได้เห็นชอบขยายระยะเวลาโครงการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มออกไปอีก 3 เดือนจากเดิมสิ้นสุดโครงการกันยายน 2563 เป็นสิ้นสุดธันวาคม 2563

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เมืองนวัตกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอ โดยมี สวทช.เป็นผู้รับผิดชอบ มีระยะเวลา 5 ปี ระหว่างพ.ศ.2564-2568 แนวทางสำคัญของโครงการนี้คือเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม โดยใช้การทำงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โครงการ EEC ผสมผสานกับแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 และผลที่คาดจะได้รับคือการพัฒนากำลังคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรมอัจฉริยะ พร้อมให้บริการแก่ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต่างๆ รวมถึงเป็นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม การผลิตและบริการ ตลอดจนขยายการวิจัยพัฒนาสู่การลงทุนในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศ ส่วนเป้าหมายระยะยาว ใน 10 ปี คาดว่าจะเกิดรายได้จากการพึ่งพาตนเอง และเกิดระบบนิเวศพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน คิดเป็นมูลค่าได้ประมาณ 2,300 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้