ทำเนียบฯ 21 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ลงพื้นที่ประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการหลังสถานการณ์โควิด-19 และมี ครม.ชุดใหม่ เผยนายกฯ ยังไม่มีกำหนดเปิดเวทีรับฟังความเห็นนักเรียนนักศึกษา
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก สถานการณ์โควิด-19 และการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคมนี้ ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 24 สิงหาคม นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ความร่วมมือแม่โขงอิรวดี ครั้งที่ 3 ร่วมกับผู้นำ 5 ประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากจะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการใช้น้ำในแม่น้ำโขง ด้วยการจัดประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับน้ำเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของน้ำตลอดทั้งปี รวมถึงการใช้น้ำของแต่ละประเทศให้มีความคุ้มค่าเกิดประสิทธิภาพแล้ว ยังจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านการสาธารณสุขในการผลิตวัคซีนที่จีนและไทยจะต้องร่วมมือกัน หากพัฒนาวัคซีนได้ในอนาคต จะต้องพยายามผลักดันแจกจ่ายให้เป็นสาธารณประโยชน์ ไม่ใช่ใช้เพื่อการธุรกิจเพื่อให้วัคซีนราคาถูก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดต่อ covid ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ก่อนจะเป็นประธานเปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะพบกับตัวแทนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และเยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจรเทศบาลบ้านเพ ก่อนจะเยี่ยมชมวิถีกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านสวนสนแกลง 1 ซึ่งจุดนี้จะมีการปล่อยลูกปูม้าคืนกลับสู่ทะเลด้วย และในช่วงเย็น นายกรัฐมนตรี จะนั่งรถยนต์ตรวจถนนเลียบหาดแสงจันทร์สุชาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาออกแบบถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ระยะที่ 2
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ส่วนภารกิจในวันที่ 25 สิงหาคม
ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ที่โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น ระยอง นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและระยอง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เมื่อเสร็จแล้ว จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ทางหลวงหมายเลข 3249 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง โดยจะชมการสาธิตการติดตั้งกำแพงคอนกรีตหุ้มแผ่นยางพารา เพื่อใช้เป็นแบริเออร์ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะไม่มีกำหนดการจัดเวทีพบปะรับฟังความเห็นพูดคุยกับนักศึกษา เนื่องจากภารกิจของนายกรัฐมนตรีแน่นตลอดทั้งวัน.-สำนักข่าวไทย