สุชาติ แจงตัวเลขตกงาน 8 ล้านคน ไม่มีข้อมูลอ้างอิงจริง

กทม. 16 ส.ค. – สุชาติ แจงตัวเลขตกงาน 8 ล้านคน ไม่มีข้อมูลอ้างอิงจริง ยันรัฐช่วยเหลือแรงงานเต็มที่ ผ่านกลไกรัฐ เสมือนถอดเครื่องช่วยหายใจ พาคนใกล้ตายออกจากICU  พ้นหายนะโควิดได้สำเร็จ  สภาพัฒน์กับคลัง  พร้อมผุด ดิจิทัลแพลตฟอร์ม“ไทยมีงานทํา”สร้างงาน4 แสนคนภายในส.ค.นี้  และใจกว้างรับฟังผู้เห็นต่างถกแก้ปัญหาร่วมกัน


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงงานเสวนา “ฝ่ายค้านฟัง กลุ่มเปราะบางจากวิกฤติโควิด” เวทีที่ 1 ความเดือดร้อนแรงงานในและนอกระบบจากวิกฤติโควิด-19 ที่กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า  ต้องขอขอบคุณนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน และสมาชิกฝ่ายค้าน ที่เสนอข้อมูล และทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในภาคแรงงาน ซึ่งพร้อมรับข้อเสนอต่างๆที่เป็นประโยชน์ไปดำเนินการทันที  อย่างไรก็ตาม ปัญหาคนว่างงาน เป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความห่วงใยเป็นอย่างมากและ ที่ผ่านมาได้เร่งรัดแก้ไขตามกลไกลต่างๆของกระทรวง

นายสุชาติยังขอชี้แจง กรณีตัวเลขคนตกงานมากถึง 8 ล้านคน ว่าตัวเลขดังกล่าวไม่มีหลักฐานอ้างอิง และต้องยึดถือตัวเลขจากระบบเพราะจากข้อมูลแรงงานที่อยู่ในระบบผู้ประกันตนนั้นมีประมาณ 16.3 ล้านคน และช่วงโควิด-19 ผู้ที่ประกันตนในระบบประกันสังคม  สำนักงานประกันสังคมได้รับชดเชยเงิน จากการว่างงานจริงๆ จ่ายเงินจำนวน 714 ,268 คน วงเงิน 17,224 ล้านบาท  ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการต่างๆในช่วงเดือนมี.ค. – ก.ค. ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หนักๆทำให้ รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงให้กิจการที่เป็นที่สุ่มเสี่ยงปิดชั่วคราว และ ทางประกันสังคมก็จ่ายชดเชย 62% จำนวน 90 วัน เป็นจำนวน9 แสนกว่าคน ที่ผ่านมา และบัดนี้สถานประกอบการต่างๆกลับมาเปิดกิจการได้เป็นปกติแล้ว อาทิเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านนวด ร้านสปา โรงหนัง โรงแรม กิจการต่างๆอีกมากมายเกือบครบถ้วน


นายสุชาติกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านระบุว่า รัฐบาลดูแลผู้ใช้แรงงานไม่ทั่วถึง และขาดมาตราการช่วยหางานใหม่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆผ่านกระทรวงการคลัง  กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรกรณ์ กระทรวงกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม  ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบน อาทิ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการจ้างงานของรัฐ ที่มีการจ้างแล้ว 209 ,930 คน จากเป้าหมาย 410,415 คน   โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน เตรียมใช้งบประมาณปี 64 จ้างงานเพิ่มอีก 5,000 คน  และที่ผ่านมาทางกระทรวงแรงงานได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีหลักประกันที่ 3% ต่อปี ให้ผู้ประกอบการหรือ(soft loan) วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อรักษาผู้ใช้แรงงาน ให้คงมีงานทำ โดยตนจะเข้าไปเร่งรัดให้มีการปล่อยสินเชื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติจำนวน 63 รายสามารถรักษาการจ้างงานได้ 8,158 คน คิดเป็นวงเงิน387ล้าน

นายสุชาติ กล่าวอีกว่าจะผลักดันศูนย์การงานแห่งชาติ เพื่อจัดหาตลาดงาน และจับคู่ตำแหน่งต่างๆที่เหมาะสมให้แก่พี่น้องประชาชน  ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานจัดหางานทุกจังหวัด ดำเนินภารกิจนี้อย่างเร่งด่วน  รวมทั้งผลักดันเรื่องดิจิทัลแพลตฟอร์มแบบ One-stop platform “ไทยมีงานทํา” ผ่านพ.ร.ก.เงินกู้4 แสนล้านบาทเพื่อรองรับแรงงาน 400,000 ตำแหน่ง  อีกทั้งยังเป็นช่องทางยกระดับ ปรับทักษะให้แรงงานเพื่อเข้าสู่อาชีพที่ประชาชนสนใจ คาดว่าจะเปิดให้บริหารสิ้นเดือนส.ค.นี้  รวมทั้งเปิดตลาดในต่างๆประเทศโดยได้นัดหมายพูดคุยกับสมาคมส่งคนงานไปต่างประเทศ อาทิ ไต้หวั่น ญี่ปุ่น อิสราเอล เกาหลีใต้ เพื่อทราบว่ามีจำนวนต้องการเท่าใด อะไรที่ติดขัด ให้กระทรวงแรงงานช่วยอะไรบ้าง เพื่อที่หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย  “รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน และเร่งสร้างงาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการจ้างงานมาอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนเป็นการถอดเครื่องช่วยหายใจในห้อง ICU  เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หายขาด ดังนั้นข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนอต้องขอบคุณมากๆแต่อาจเป็นด้านเดียว ที่ยังไม่ครบถ้วน   ทั้งที่เหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ  ดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องต้องมานั่งคุยกันแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อให้ตั้งต้นตรงกัน ซึ่งผมยินดีเข้าไปรับฟังเพื่อช่วยกันทำงานแบบสร้างสรรค์เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองด้วยกัน และพร้อมแก้ไขปัญหาต่างๆไปในทิศทางเดียวกัน ” นายสุชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก