รัฐสภา 29 ก.ค. -อัยการ-ตำรวจ เข้าชี้แจงข้อมูล กมธ.กฎหมายฯ สภา คดี “บอส อยู่วิทยา” ขอสรุปสำนวน ก่อนแจงอีกครั้งสัปดาห์หน้า ด้าน “โรม” ตั้งข้อสังเกตความสัมพันธ์ ทนายบอสเป็นอดีต ส.ว. ใกล้ชิด “พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ”
ด้านอดีต ผกก.ทองหล่อ ยันมีผลตรวจสารเสพติดในสำนวน ขณะที่จเรตำรวจระบุอย่าว่าแต่สังคมแคลงใจ เพราะตำรวจยังสงสัยคดีนี้
การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานการประชุม ได้เชิญตำรวจและอัยการมาชี้แจง คดีนาย วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ซึ่งผู้เข้าชี้แจงประกอบด้วย พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ได้รับมอบหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีที่เกิดขึ้น มาชี้แจง
พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะคดีอยู่ในความสนใจของประชาชน
พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อดีตผู้กำกับสน.ทองหล่อ ชี้แจงในฐานะที่เป็นผู้กำกับในขณะนั้นว่า ไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง แต่ได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลาประมาณ 5 เดือนส่งให้อัยการ จากนั้นอัยการขอให้สอบสวนเพิ่มเติมซึ่งตนได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่อื่น และ เนื่องจากคดีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังอยู่ระหว่างการสอบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการดำเนินคดีในครั้งนั้นบ้าง ทั้งนี้ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ตัวผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และหลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 26 กันยายน ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ และพนักงานอัยการได้นัดหมายเพื่อนำไปฟ้องร้องต่อซึ่งเป็นขั้นตอนของอัยการ
พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุรถชนไม่พบรถคู่กรณีในที่เกิดเหตุแต่มีคราบรอยน้ำมันจึงติดตามไปไม่ถึง 1 กิโลเมตรทราบว่าเป็นบ้านผู้ต้องหา ตอนแรกจะเข้าไปขอค้น ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นเดินทางไปบัญชาการด้วยตัวเอง และคนในบ้านคือนายสุเวช หอมอุบล ได้เดินออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ขับรถชน จึงนำตัวไปสอบสวน สุดท้ายรับว่าไม่ได้เป็นคนขับ และเมื่อตรวจสอบป้อมตรวจที่บันทึกรถเข้า-ออก พบว่าเป็นทะเบียนรถของบอส ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่านายสุเมธทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านและคนติดตามนายบอส และสุดท้ายสารภาพว่าเป็นหนี้บุญคุณคนในบ้านจึงออกมาสารภาพแทน ซึ่งดูจากห้วงเวลาซึ่งรวดเร็วมากจึงไม่น่ามีเวลาที่จะเตรียมการกันไว้ก่อน
ขณะที่กรรมาธิการสลับกันซักถาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขั้นตอนการดำเนินคดี ว่าครบถ้วนตามขั้นตอนหรือไม่โดยนายรังสิมันต์ โรม กรรมาธิการได้พยายามซักถามว่า ได้มีการตรวจร่างกายนายวรยุทธหลังก่อเหตุหรือไม่ เหตุใดผลข้อมูลสิ่งแปลกปลอมในร่างกายจึงไม่อยู่ในสำนวนของคดี พร้อมตั้งข้อสงสัยว่านายสมัคร เชาวภานันท์ ที่ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็น ทนายความของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสน.ทองหล่อ มีความสัมพันธ์ใดกับพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เพราะเคยอยู่ในกรรมาธิการเดียวกัน
พล.ต.ต.ชุมพล ชี้แจงถึงกรณีที่กรรมาธิการฯ สงสัยว่าได้มีการตรวจสารเสพติด ในตัวผู้ต้องหาหรือไม่ว่า ในวันนั้นได้ไปที่เกิดเหตุ นำตัวผู้ต้องหาและรถของกลางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และได้ให้ผู้ต้องหาแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการนำตัวไปตรวจร่องรอยบาดแผลที่โรงพยาบาล พร้อมทำหนังสือให้โรงพยาบาลตรวจหาสารเสพติดหรือสารแปลกปลอมทั้งหลายที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งรายงานการตรวจก็อยู่ในสำนวนการสอบสวน ครบถ้วน ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่มีการฟ้องตนก็อยากจะเรียนว่าเป็นดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวนซึ่งมีหลายคน มีเหตุผลจากผู้ชำนาญการอยู่ในสำนวนซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้ จะได้ไปให้กับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี หนึ่งใน 7 คณะทำงานตรวจสอบการพิจาณาสั่งคดี กล่าวว่ากำลังตรวจสำนวนในรายละเอียด เพราะบางจุดบางช่วงอาจไม่ตรง จึงขอว่าสัปดาห์หน้าจะมาชี้แจงทั้งหมด และขอยืนยันว่าทำงานมาตั้งแต่ปี 2521 ผู้บังคับบัญชาไม่เคยสั่งให้ฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องและตนไม่เคยรับคำสั่งของใครไม่ว่านักการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติขอยืนยันว่าพวกตนมีอิสระจริงๆ ส่วนเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องนั้น พวกตนทั้ง 7 คนไม่ได้ทำสำนวนคดีเลยจึงขอเวลาตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่ปกป้องใครแต่เป็นการทำงานเพื่อตอบคำถามของสังคม
พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ กล่าวว่า กรณีของการไม่ฟ้องนายวรยุทธนั้น เป็นเรื่องที่ทั้งสังคมและทุกฝ่ายให้ความสนใจ ซึ่งตนก็สงสัยและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สงสัย ดังนั้นวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งกรรมการ สอบข้อเท็จจริงขึ้นมา 3 คำสั่ง ตั้งแต่สำนักงานอัยการสูงสุด สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบ ดังนั้นหากประชาชนสงสัยในส่วนไหนขอให้คณะกรรมาธิการทำเป็นบันทึกและส่งไปให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้ตอบข้อสงสัย
นายสิระ ฝากไปกับทางตำรวจและอัยการคลายข้อสงสัยของสังคมและปกป้ององค์กรตำรวจและอัยการ นำผู้ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายมาลงโทษ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การ มหาชน และกองทุน เสนอให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของสภา ทั้ง 3 คณะ คือกรรมาธิการศาลฯ กรรมาธิการกฎหมายฯ กรรมาธิการตำรวจฯ ทำงานร่วมกันเพื่อที่จะได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงในคราวเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย