กทม. 12 ส.ค. – “อลงกต” ปัดข่าว “วุฒิสภา” เตรียมโหวตคว่ำ ร่างกม.งบฯ ปี 69 บอก ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ย้ำหน้าที่ สว. แค่ให้ข้อสังเกต ปัดให้ความเห็น ลดงบ “มท.” สูง- เงินทอนท้องถิ่น
นายอลงกต วรกี สว. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 ซึ่งสภาฯ เตรียมพิจารณาวาระสองและวาระสาม ในวันที่ 13-15 ส.ค. นี้ ว่า จะมีการติตาม ขณะเดียวกันในส่วนของกมธ.ของวุฒิสภา ยังมีการพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียด โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการเข้ามาชี้แจงรายละเอียด และสว.มีหน้าที่ทำข้อสังเกต โดยวันที่ 13 ส.ค.นี้ กมธ.ของวุฒิสภา ได้เชิญหน่วยงานของมหาดไทยเข้ามาชี้แจงในรายละเอียด ทั้งนี้การพิจารณาของ สว. ไม่สามารถตัดหรือเปลี่ยนแปลงได้ มีหน้าที่เพียงตั้งข้อสังเกต หากพบว่างบบางตัวมีความแปลก เช่น งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตั้งงบไว้สูงเพื่อใช้ทวงหนี้ผู้ที่ผิดนัดชำระเงินกู้ กยศ. หรือ งบประมาณบางหมวดที่เป็นเบี้ยหัวแตก งบการแก้ปัญหาทุจริตที่มีกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ เป็นต้น
เมื่อถามว่า ฝ่ายกมธ.ของสภาฯ ปรับลดงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง มากถึง 2,148 ล้านบาท นายอลงกต กล่าวว่า เป็นปัญหาของรมว.มหาดไทย และเป็นปัญหาของพรรครัฐบาล ไม่เกี่ยวกับสว. เพราะสว.มีหน้าที่ให้ข้อสังเกต
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการโยกงบให้ท้องถิ่นบางพื้นที่ที่เป็นสายการเมือง นายอลงกต กล่าวว่า ตามกระบวนการ งบท้องถิ่นมี 2 กรณี คือ ตั้งปกติ และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โดยทั้ง 2 กรณีนั้นเสนอมาตามกระบวนการของจังหวัดและกระทรวง ส่วนจะมีใบสั่งหรือไม่ ตนไม่เห็นภาพลักษณ์ใบสั่ง ทั้งนี้มองว่าจากกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีตรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ถูกให้พ้นจากสส. และ ตัดสิทธิการเมือง เพราะผิดมาตรา 144 นั้น ตนเชื่อว่าเขาจะมีความวิตกจริต และใช้ความละเอียดรอบคอบ ไม่กระจุกอยู่พรรคไหน แต่ส่วนตนไม่ได้ดูรายละเอียดเชิงลึก และการเปลี่ยนแปลงงบประมาณนั้นเป็นหน้าที่ที่ สส.พิจารณา
ส่วนมีกระแสข่าวว่า สว. อาจไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 นายอลงกต กล่าวว่า ไม่มีไม่เห็นชอบแน่นอน ขอให้คิดดูว่า หากสว.ไม่เห็นชอบ จะใช้มูลเหตุอะไรไม่เห็นชอบ และส่วนตัวได้คุยกับหลายคนเห็นว่า หากสว.ไม่เห็นชอบกระบวนการต้องย้อนไปสส.อีก ดังนั้น สว. จะยื้อทำไม ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หากสามารถนำเงินเข้าระบบได้เร็วเท่าไรยิ่งดี
“ความเห็นส่วนตัวของผม มองว่า ไม่มีเหตุผลยับยั้ง แต่มีข้อสังเกตได้ แต่ไม่ควรที่จะชะลอการผ่านงบประมาณในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ งบประมาณอนุมัติเร็ว เท่ากับจ่ายเร็ว ส่วนที่บอกว่างบประมาณกระจุกตัวบางจังหวัด เช่น อุบลราชธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ แต่งบเหล่านั้นกระจายตัวในพื้นที่ และไม่ผ่าน ได้ประโยชน์อะไร เพราะเงินเข้าระบบช้า ทำให้สัคมมองว่าสว.ดึง ไม่มีประโยชน์“ นายอลงกต กล่าว
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่างบจังหวัดอาจมีเงินทอนขึ้นได้ นายอลงกต กล่าวว่า สว.ไม่มีอำนาจยับยั้ง ลด หรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ไม่เหมือนกับ สส. ดังนั้นเงินทอนจะอยู่ที่ไหน
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าส่วนตัวไม่กังวลใช่หรือไม่ นายอลงกต กล่าวว่า เป็นเรื่องของสส. ไมใช่เรื่องที่ สว. กังวล เพราะ สว.ต้องรอพิจารณาจากสส. ดังนั้นความกังวลคือ สส. และหน่วยงาน สว. มีหน้าที่ตั้งข้อสังเกต หากหน่วยงานที่มาชี้แจงตอบไม่ได้ สว. ทำได้แค่ตั้งสังเกต และนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา ช่วงวันที่ 25-26 ส.ค. นี้.-315-สำนักข่าวไทย