31 ก.ค. – โฆษก กต. เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหาร ลงพื้นที่จุดปะทะ พรุ่งนี้ (1 ส.ค.68) ขณะที่ ผบ.ทสส.มาเลเซีย พบแม่ทัพภาคที่ 1 และ 2 เพื่อรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงว่าที่ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่ เตือนไทยทำสงครามกับเพื่อนบ้านจะเป็นอันตรายต่อความเป็นพันธมิตรไทย-สหรัฐ ตรวจสอบแล้วว่ามีการพูดจริง แต่เป็นการพูดในการพิจารณารับรองของกับวุฒิสภาสหรัฐ กัมพูชาเอาไปปั่นกระแส เสมือนว่าพูดโจมตีประเทศไทย
ส่วนกรณีกัมพูชาเชิญผู้แทนทางทูตและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจาก 13 ประเทศ ลงพื้นที่จุดผ่อนปรน เรื่องนี้ไทยไม่กังวล แต่กัมพูชาควรกังวลมากว่า เพราะเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เพราะฉะนั้นถ้าทูตสำรวจละเอียดจริง ก็คงเห็นข้อเท็จจริง และขณะนี้กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และจะนำผู้ช่วยทูตทหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ในส่วนของไทยเหมือนกัน โดยคาดว่าจะเป็นวันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) จะได้เห็นสถานที่ เห็นข้อเท็จจริง และเห็นพื้นที่ที่เกี่ยวกับการทำร้ายประชาชน

ผบ.ทสส.มาเลเซีย พบแม่ทัพภาพ 1-2 รับทราบข้อเท็จจริง
ด้าน พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย กับแม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 1 ในโอกาสนำคณะเดินทางเข้าหารือรับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 29 และ 30 กรกฎาคม 2568 โดยภารกิจเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย พบกับ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ กองบินที่ 21 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงถึงมูลเหตุของสถานการณ์ก่อนจะนำมาสู่การสู้รบกันของทั้งสองประเทศ ทั้งในเรื่องของความเห็นต่างเรื่องแผนที่และแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยยึดแนวทางสันติ หากมีปัญหา ฝ่ายไทยจะใช้การประท้วงการละเมิดตาม MOU ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหารและวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงมีการใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งสถานการณ์เกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง จนฝ่ายกัมพูชาเริ่มการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย แสดงความเข้าใจในบริบทที่ฝ่ายไทยรู้สึกว่าถูกยั่วยุ จึงเสนอให้ใช้กลไกประสานงานผ่านผู้ช่วยทูตทหารไทย-มาเลเซีย หรือคณะประสานงานที่จัดตั้งไว้เข้าแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียยังหารือกับ พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 โดยเสนอว่า มาเลเซียพร้อมเป็นสื่อกลางในการทำให้เกิดความสงบและสันติสุขในภูมิภาคชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเตรียมจัดตั้งทีมผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ (DA TEAM) และทีมสังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Monitoring Team) เพื่อสังเกตการณ์หยุดยิงและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กลุ่มประเทศอาเซียนได้รับทราบข้อเท็จจริง โดยเสนอ 3 ข้อหลักคือ 1.หยุดยิงในทันที 2.ห้ามเพิ่มกำลังทหาร และ 3.เน้นความช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งทางด้านแม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยินดีให้การสนับสนุนทีมสังเกตการณ์ที่จะตั้งขึ้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย