“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย


นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประเด็นที่คุยอันดับแรกคือจะให้มีการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่อยากให้กระทบกับชีวิตของพลเรือน และในรายละเอียดจะเป็นการคุยกันในระดับทวิภาคี ซึ่งได้เสนอไปแล้วว่าอยากคุย กัน ระหว่าง 2 ประเทศ โดยจะเป็นการคุยกันทั้งทีมในหลายๆเรื่องที่จะทำให้เกิดการยุติการสู้รบ และเป็นภัยต่อพลเมืองไทยเป็นเรื่องหลัก หัวใจสำคัญคือเรายึดมั่นในอธิปไตย ของประเทศส่วนกรณีที่บอกว่าจะไปคุยกันในเรื่องการใช้แผนที่ 1:200,000 นั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยังไม่คุยกันในเรื่องนี้เลย และขณะนี้ เราก็ยึดตามที่คิดว่าเราได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งก็จะต้องพูดคุยกัน 2ฝ่ายก่อน โดยอาจจะมีห้องเล็กได้คุยกัน

ส่วนที่ผ่านมากัมพูชาไม่ปฏิบัติตามจะไว้ใจได้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอการหยุดยิงเพื่อเจรจา ไม่ได้หมายความว่าหยุดยิงแล้วทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม เพราะได้บอกแล้วว่าเรายึดมั่นในหลักอธิปไตยของประเทศ และชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเป็นหัวใจสำคัญที่เราต้องพิจารณา หากมีอะไรเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการผูกพันระยะยาวหรือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศจะนำเข้ามาหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่เรายึด และถ้าเป็นการเฉพาะหน้าทั้ง 5 คนที่ร่วมเดินทางไปก็จะพิจารณาอย่างเหมาะสม โดยปัจจัยสำคัญยังยืนยันภายใต้เอกราชอธิปไตยของประเทศ และยึดมั่นในผลประโยชน์ และชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งริเริ่มในการดำเนินการเป็นขั้นแรก


ทั้งนี้ได้บอกไว้แล้วว่าเราไม่เชื่อมั่นในกัมพูชา โดยสิ่งที่ทำมาทั้งหมดเป็นการสะท้อนว่า เราไม่เชื่อในความจริงใจและจริงจังที่จะจัดจัดการแก้ไขปัญหา ดังนั้นรายละเอียดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องแสดงตรงนี้ให้เราเห็นซึ่งก็ต้องดูว่าเป็นอย่างไร

ความจริงเขาได้เสนอความเห็นกับทางมาเลเซีย จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นการริเริ่มจาก เขา แต่สิ่งที่เรายังคาดแคลงใจก็คือยังมีการบุกเข้ามาดำเนินการทุกอย่างที่เป็นปัญหา ในขณะเดียวกันก็จะขอยุติ ให้เกิดการหยุดยิง จึงได้บอกกับทุกคนไปว่า ทั้งหมดที่เสนอเป็นเรื่องที่เรารับอยู่แล้ว ตั้งแต่ต้นและพยายามเดินแนวนี้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาไม่เคยรับสนองเรื่องนี้เลย ดังนั้นการที่จะมารับสนองเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าเราไม่ใช่คนที่มีปัญหาและโลกรู้ดีว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากความพยายาม การตั้งใจทำของเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำโดยไม่ได้อยู่กับร่องกับรอย ตามที่เรา ประณามไปอย่างรุนแรง

เมื่อถามว่ามีประเทศจีนจะเข้าร่วมด้วยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความจริงทางกัมพูชา ได้เสนอความเห็นกับทางมาเลเซีย จีนและสหรัฐอเมริกา เป็นการริเริ่มจากเขาที่จะเจรจา แต่สิ่งที่เรายังคลางแคลงใจ ก็คือมีการบุกเข้ามาดำเนินการทุกอย่างที่เป็นปัญหา ขณะเดียวกันก็จะขอยุติการหยุดยิง


“เรื่องที่เสนอมาเป็นสิ่งที่เรารับไว้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นและพยายามเดินแนวนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาไม่เคยรับสนองเรื่องนี้เลย เราไม่ได้เป็นคนที่มีปัญหาโลกรู้ดีว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากความพยายามและความตั้งใจทำของเขาและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำโดย ไม่อยู่กับร่องกับรอยเหมือนอย่างที่เราประณามไปอย่างรุนแรง สิ่งที่เขาเริ่มต้นไม่ได้อยู่ในกติกากฎหมายระหว่างประเทศเลย การยิงเข้ามาในโรงพยาบาลเขาไม่ทำกันในโลกนี้” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า สิ่งที่เราทำให้โลกเห็นคือเราอยู่ในกฎหมาย โลกรับรู้รัฐมนตรีต่างประเทศ ขณะที่อยู่ที่นิวยอร์กก็ได้พูดกับตัวแทนเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งทั้งหมดมีความเข้าใจ จะเห็นว่าสิ่งที่พลเอกฮุน มาเนต เสนอเข้าไปในที่ประชุมระหว่างประเทศไม่ได้รับการสนใจประเด็นไม่ได้เข้าสู่การประชุม ทั่วโลกเขาเข้าใจ แต่จุดยืนของประชาคมโลก เห็นว่าอย่าให้การสู้รบที่กระทบพลเรือนยุติก่อน เราเชื่อว่าโลกเข้าใจเราและยืนอยู่ข้างเรา เพราะเรายืนอยู่ข้างความเป็นธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นจากกัมพูชาคือการละเมิดข้อตกลงและกฎหมายระหว่างประเทศ

“แต่ทุกคนอยากเห็นความสงบสุข แล้วไม่อยากเห็นความรุนแรงที่กระทบกับชีวิตพลเมือง การยื่นมือเข้ามาช่วยไม่ว่าจะจีน สหรัฐอเมริกามาเลเซีย ทุกคนพูดประเด็นเดียวกันว่าไม่อยากเห็นสงคราม ไม่อยากเห็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปกว่านี้ และเราอยากให้เห็นว่าพลเรือนไทยที่ถูกกระทำเป็นตัวอย่างเพื่อเรียกร้องให้เขาได้เห็นว่าเป็นสิ่งที่กัมพูชากระทำอย่างมิชอบ ไม่ถูกต้องเพราะฉะนั้นการเจรจาวันนี้ อยู่บนฐานที่จะทำให้พลเรือนทุกฝ่ายเกิดความปลอดภัย และไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในดินแดนแต่ละฝ่าย ซึ่งเราไม่ได้รุกล้ำสิ่งที่รุกล้ำคือเขา” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าต่างฝ่ายก็ต่างยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเปิดก่อนเรามีหลักฐานทางเอกสารที่จะไปยืนยันได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดยิงก่อนหรือไม่ เพราะหลายประเทศเองก็ออกมาการันตีว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเปิด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้เตรียมการไว้ทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดที่พูดไปมันเป็นเพียงการคาดการณ์ยังไงก็ต้องรอให้เจรจา และต้องดูว่าข้อเสนอทั้งหมดว่าจะเป็นอย่างไร

ซึ่งทีมเราขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนได้ว่า เราไปด้วยการพยายามยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศ เอกราชของประเทศ อธิปไตยของประเทศ และประชาชนไทยเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งการไปครั้งนี้ได้มีการปรึกษากับกองทัพด้วย และได้รับข้อเสนอจากกองทัพด้วย และเราจะนำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไปร่วมเจรจา ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ตนคนเดียว และไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาล แต่เป็นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่เขากำลังอยู่ในภาวะกำลังสู้อยู่ในสงครามก็ประสานติดต่อกันตลอด และก็ได้รับเงื่อนไขด้วยว่ากองทัพมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ส่วนต่าง ๆ มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง และรับเงื่อนไขเหล่านั้นไปเจรจาทั้งหมด ซึ่งก็ต้องรอผลการเจรจา

นอกจากนี้ กรณีที่ประชาชนชาวกัมพูชาในต่างประเทศที่มีการประท้วงเดินขบวนนั้นจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองคิดว่าคงได้แค่นี้ ขอรอผลจากการเจรจาก่อน เพราะสิ่งที่กำลังพูดขณะนี้เป็นการคาดการณ์ และเรายังไม่รู้ว่าที่ไปเจอจริงๆ จะเป็นอย่างไร และการพูดไปทั้งหมดนั้นก็อาจจะไม่ใช่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]