“อนุทิน” เผยมติเอกฉันท์ เลื่อนถก กม.สถานบันเทิงฯ

ทำเนียบ 8 เม.ย.-“อนุทิน” เผยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมติเอกฉันท์ เลื่อนถก กม.สถานบันเทิงฯ ออกไปก่อน ชี้กำแพงภาษีสหรัฐฯ สำคัญกว่า รอคุยในสภาพรุ่งนี้ จากนี้เร่งทำความเข้าใจคนเห็นต่าง ส่วนจุดยืนภูมิใจไทย ตอบเพียงว่า ผ่าน ครม.แล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เล่าบรรยากาศการหารือของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล กับ นายกรัฐมนตรี ก่อนจะตัดสินใจ เลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) ว่า เป็นการหารือกันในบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล หลังการประชุม ครม. โดย นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล เป็นผู้ขอหารือ


เมื่อถามว่า ใครเป็นคนนำเสนอ ถึงเป็นที่มาของการเลื่อนพิจารณา นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่า นายกฯ มีในใจอยู่แล้ว อย่างที่ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลไม่ได้ฟังเฉพาะคนที่พูดแล้วเป็นไปในทางเดียวกับรัฐบาลเท่านั้น ใครเห็นต่างก็ต้องฟังหมด เพราะเราเป็นรัฐบาล เราเลือกให้ความสำคัญกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะมีคนออกมาคัดค้านกันเยอะใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันมีเหตุมีผล ซึ่งร่างกฎหมายนี้ผ่าน ครม.ไปแล้ว ก็ต้องถือว่ามันคือร่างของรัฐบาล มีความสำคัญ เข้าไปสภาแล้ว ผ่านที่ประชุมวิปแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านก็มีการเสนอเรื่องการดูแลประชาชนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเข้ามา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลและตนที่เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ก็ให้คำยืนยันกับ นายกฯ ว่า เรื่องการดูแลประชาชน การเยียวยา การบริหารสถานการณ์ ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องให้ความสำคัญอย่างเต็มที่และสูงสุด และเราก็ได้ฟังฝ่ายค้านพูดถึงความจำเป็น ความห่วงใยประชาชน และเราทำงานอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเลื่อนขึ้นมาพิจารณา


หลังจากนั้นก็มีเรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ตามมา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เป็นห่วงเรื่องนี้มาก จึงจะเสนอญัตตินี้เข้าไป เมื่อเสนอก็ต้องมีการเลื่อนขึ้นมา ซึ่งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็เห็นด้วย เพราะคราวที่แล้วก็เลื่อน เพราะทั้ง 2 เรื่อง มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจปากท้อง ถ้าไม่ให้เลื่อนก็จะถูกตีความได้ทันทีว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกับแนวคิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อยู่ และเริ่มเพิ่มขึ้น ทั้งจาก สว. อดีต สสร.ปี50 แพทย์ และสำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งก็ถือว่าเริ่มเยอะแล้ว นายกฯ จึงบอกว่า หรือเรายังไม่ไปอธิบายให้คนเหล่านี้เข้าใจเพียงพอ จริงๆ มันคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นหลัก กาสิโนเป็นรอง แต่กลายเป็นว่า ทุกคนพูดว่ากาสิโนเป็นหลัก แบบนี้ แสดงว่ารัฐบาลยังสื่อสารไม่ดีพอ ไม่เพียงพอ และไม่ครบถ้วน บวกกับเรื่องของการขึ้นภาษีสหรัฐฯ จึงเอาปัญหาปากท้องประชาชนก่อนดีกว่า ก็ถือว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นเป็นเอกฉันท์

ส่วนสมัยประชุมหน้าจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า กฎหมายมันยังค้างอยู่ก็ยังเป็นคิวต่อไป แต่เนื่องจากสภาจะปิดสมัยประชุมวันที่ 10 เมษายน ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี ไม่มีการพิจารณากฎหมาย ก็ต้องเลื่อนไป และยังอยู่ในคิวการพิจารณา


ส่วนสมัยหน้าหากยังมีผู้ไม่เห็นด้วยอีก นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของเรื่อง กระทรวงการคลัง หรือรัฐบาล หรือใครก็ต้องไปชี้แจงกับประชาชนให้มากที่สุด แต่ยืนยันเรื่องผ่าน ครม. ไปแล้ว

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่จะตัดส่วนกาสิโนออก นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้าจะปรับปรุงอะไรใหม่ ก็ต้องกลับเข้ามาใหม่ ตอนนี้เป็นเรื่องของสภาแล้ว

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยกับการประชุมที่จะเกิดขึ้นในสมัยหน้า นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า มันผ่าน ครม.ไปหรือยัง ผ่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไปหรือยัง ก็นั่งอยู่ใน ครม. ก็เป็นไปตามกระบวนการ แต่ทุกคนก็ต้องเห็นพ้องต้องกันหมด

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลต่อการจัดทำร่าง พ.ร.บ.พนันออนไลน์ ให้ชะลอไปด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องพนันออนไลน์ก็มีคณะกรรมการร่างอยู่ ตรงไหนที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น คณะกรรมการก็ว่าไป แต่สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยจะเร่งเสนอให้ประชาชนตอนนี้ คือกฎหมายลงโทษการพนันที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 โดยก่อนหน้านี้ ถ้าเจอบ่อน ก็มีการปรับ การตักเตือน แต่ต่อไปนี้จะจำคุกลูกเดียว พร้อมกับยึดทรัพย์ ตรงนี้ก็จะทำให้ความกังวลของประชาชนลดลง เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นการพนันผิดกฎหมายก็ต้องมีกฎหมายที่แรงขึ้น เราก็จะใช้เวลาในการผลักดันกฎหมายที่จัดระเบียบสังคมให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เข้า ครม. ไปแล้ว และรอการพิจารณา.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย